สงขลา-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียน ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
สงขลา-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียน ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
วันนี้ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13.30 น. ณ บ้านเลขที่ 88/6 หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พันเอก ยุทธนา เพชรม่วง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา, พันโท เกรียงไกร ดำรัสการ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา 40 ลงพื้นที่พบปะ ให้กำลังใจครอบครัวของนาย สุทธิศักดิ์ หมีนเส็น ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณสะพานรถไฟบ้านน้ำเค็ม ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น เหยียบกับระเบิดจนได้บาดเจ็บสาหัสขาขวาขาดขณะออกหาปลา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเกิดเหตุแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยเฉพาะกิจสงขลาให้ความช่วยเหลือครอบครัวนายสุทธิศักดิ์ฯ โดยการต่อเติมซ่อมแซมบ้าน และบรรจุบุตรเข้าทำงานตามโครงการ “สร้างงาน/จ้างงานเร่งด่วน” เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 4 มอบเงินช่วยเหลือตามโครงการฯให้กับบุตรของนาย สุทธิศักดิ์ หมีนเส็น พร้อมมอบรถจักรยานแก่บุตรของนายสุทธิศักดิ์ฯ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป โดยมี ว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอจะนะ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากทราบข่าวได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจ นายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น และครอบครัวแล้ว และได้มอบเงินช่วยเหลือในขั้นต้น 100,000 บาท ในวันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว และบ้านของนายสุทธิศักดิ์ฯ อีกครั้ง เพื่อเตรียมการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือตามโครงการ “การสร้างงาน จ้างงานเร่งด่วน” ให้กับบุตรของนายสุทธิศักดิ์ฯ จำนวน 2 อัตรา ซึ่งในส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีโครงการเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการจ้างงานเร่งด่วน ซึ่งจะทำให้ครอบครัวสามารถบรรเทาทุกข์เรื่องค่าใช้จ่ายลงได้ในขั้นต้น ในส่วนการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านหลังใหม่ เพื่อรองรับการใช้ชีวิตภายหลังจากได้รับการรักษาออกจากโรงพยาบาล ด้านหัวหน้าส่วนราชการ
ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือทำการซ่อมสร้างบ้านดังกล่าว ทั้งนี้งบประมาณส่วนหนึ่งได้รับจากการบริจาคจากพี่น้องประชาชน ขณะนี้มียอดบริจาคอยู่ที่ประมาณ 1,500,000 บาท ซึ่งจะใช้งบประมาณในการสร้างบ้านประมาณ 7-8 แสนบาท เมื่อสร้างแล้วเสร็จครอบครัวของนายสุทธิศักดิ์ฯ จะได้เข้าอยู่ ในส่วนของเงินบริจาคที่เหลือนั้น รวมทั้งเงินเยียวยาจากทางราชการจะได้ส่งมอบกันต่อไป เพื่อใช้สำหรับเป็นทุนในการประกอบอาชีพ สร้างอาชีพให้กับครอบครัว ทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างปกติสุข ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เกิดจากพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือเข้ามา ทั้งหมดนับเป็นน้ำใจของคนไทยอันแสดงให้เห็นว่าคนไทยจะไม่ทิ้งกัน ที่ผ่านมาในพื้นที่บ้านน้ำเค็ม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาพี่น้องประชาชนอยู่กันฉันท์พี่น้อง รักความสันติสุข และไม่อยากให้สถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ ทุกคนปฏิเสธความรุนแรง แต่มีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ ความรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความสูญเสีย เกิดความพลัดพราก และเสียโอกาสในหลายสิ่งหลายอย่าง ฝากไปถึงผู้ที่หลงผิดที่กำลังหลบหนีหรือซ่อนตัวให้ออกมารายงานตัวแสดงตนเพื่อที่เข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย กลับคืนสู่การใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ขอให้มั่นใจในกระบวนการของรัฐ หรืออาจมาพบกับแม่ทัพภาคที่ 4 ได้โดยตรง หันกลับมาดูแลสังคม และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ไปด้วยกัน
นายอดิศักดิ์ หมีนเส็น บุตรนายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น กล่าวว่า “ปกติพ่อจะออกไปหาปลาในเวลาเดิมทุกวัน ซึ่งในวันเกิดเหตุพ่อก็ได้เดินทางออกไป จนกระทั่งได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น หลังจากนั้นมีเพื่อนบ้านมาบอกว่าพ่อโดนระเบิดที่ทางรถไฟ จึงได้เดินทางออกไปกับน้องเพื่อไปหาพ่อ ก็เจอกับพ่อที่นอนจมกองเลือด จึงรีบช่วยกันนำไปส่งโรงพยาบาลด้วยรถมอเตอร์ไซค์ หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาช่วยเหลือ และมาดูแลเกือบทุกวัน ตอนนี้ได้บรรจุเข้าทำงานตามโครงการ สร้างงาน จ้างงานเร่งด่วน และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาช่วยสร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัวด้วย”
ด้าน นางรอมเล๊าะ และหวัง อายุ 70 ปี มารดานายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่จากหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้การช่วยเหลือดูแลมาโดยตลอด จากเดิมนายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น เป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว เมื่อประสบเหตุเช่นนี้ ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือจึงทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา