สงขลา-สส.เดชอิสม์ ขาวทอง ( นายกชาย ) รอง หัวหน้าพรรค ปชป.ภาคใต้ ส่งทนายฟ้อง บรรจง นะแส เอ็นจีโอตัวพ่อ ในข้อหา หมิ่นประมาท หลังออกมา ไลฟ์สด กล่าวหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการ บุกรุก โบราณสถาน “หัวเขาแดง”
สงขลา-สส.เดชอิสม์ ขาวทอง ( นายกชาย ) รอง หัวหน้าพรรค ปชป.ภาคใต้ ส่งทนายฟ้อง บรรจง นะแส เอ็นจีโอตัวพ่อ ในข้อหา หมิ่นประมาท หลังออกมา ไลฟ์สด กล่าวหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการ บุกรุก โบราณสถาน “หัวเขาแดง”
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ 15 มีนาคมคม 2565 นาย ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายจตุรภัทร จันทพันธ์ ทนายความ และนายอดุลย์ สงดวง ผู้ช่วย สส. นายเดชอิสม์ ขาวทอง หรือ “นายกชาย” สส.เขต 5 จ.สงขลา และรองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ภาคใต้ ว่าได้รับมอบอำนาจจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 4 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ให้เป็นตัวแทนในการ ยื่นฟ้อง นายบรรจง นะแส ผู้นำภาคประชาสังคม ใน จ.สงขลา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทำให้นายเดชอิศม์ ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และสังคมเข้าใจผิด จากกรณีที่ นายบรรจง ได้ออกมา ไลฟ์สด กรณีที่ ผอ.สำนักงานศิลปากรที่ 11
ได้มีการแจ้งความต่อ พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเข้า ขุดดิน และ ตัดถนน ในพื้นที่”โบราณสถาน”หัวเขาแดง ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา และต่อมา เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ได้พบว่าดีการ ไลฟ์สดผ่านทาง”โซเชียลมีเดีย “ กล่าวหาว่า นายเดชอิศม์ มีส่วนรู้เห็นกับการบุกรุกโบราณสถานเขาแดง ทั้งที่เรื่องการบุกรุก “โบราณสถาน” ไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับนายเดชอิศม์ นายเดชอิศม์ จึงได้มอบอำนาจให้ตน ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา เพื่อพิสูจน์ความจริง ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่นายบรรจงกล่าวหา โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต่อมานายเดชอิศม์ ได้กล่าวว่า หลังเกิดการ บุกรุกโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ หัวเขาแดง ตนได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการปกป้อง โบราณสถานทางประวัติศาสตร์สำคัญของ จ.สงขลา จะด้วยการบูรณาการ กับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ หรือจะมีการออกกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกัน โบราณสถานของชาติ และการเอาผิดกับผู้บุกรุก ตนเป็นเจ้าของ นโยบายทวงคืนสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศ และดำเนินการในจังหวัดสงขลาเป็นแห่งแรก มีการจับกุม เอาผิด กับ โรงงานอุตสาหกรรม หลายแห่ง ใน จ.สงขลา ที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองอู่ตะเภา ที่ไหลลงทะเลสาบสงขลา ซึ่งไม่เคยมี นักการเมืองคนไหนทำมาก่อน แล้วตนจะเป็นผู้บุกรุกทำลายโบราณสถานอย่างไร ส่วนผู้ที่บุกรุก ซึ่งขณะนี้ พนังานสอบสวน ได้มีการดำเนินการทางกฎหมาย จนมีการไปมอบตัวแล้ว ก็เป็นเรื่องของขบวนการยุติธรรมที่ว่ากันไป ตนไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยวในเรื่องที่เกิดขึ้น
สำหรับคดีนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชน ใน จ.สงขลา เป็นอย่างมาก เพราะมีการกดดัน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งดำเนินคดีกับ ผู้บุกรุก หากไม่ดำเนินคดี จะมีการรวมตัวไปวางหรีดที่ สภ.สิงหนคร จึงทำให้มีการ ออกหมายเรียก ผู้ที่ทำผิดมามอบตัวเพื่อลดกระแสของภาคประชาสังคม โดยศาลได้นัดไต่ส่าวนมูลฟ้งในวันที่ 6 มิถุนายน ศกนี้
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา