กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 /2565
กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 /2565
วันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
การประชุมฯ ในครั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
กองบัญชาการกองทัพไทย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้จัดเตรียมกำลังเพื่อรองรับภารกิจการต่อต้านการก่อการร้ายและการก่อเหตุร้ายภายในประเทศ โดยผนึกกำลังร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมตั้งแต่ในภาวะปกติ โดยมีการป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ
กองทัพบก ได้รายงานผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองภาคเหนือ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกองทัพบก และผลการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังป้องกันชายแดนให้ที่ประชุมได้รับทราบ
กองทัพเรือ ได้นำเสนอแนวคิดในการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพเรือที่ว่า “สองฝั่งมหาสมุทรและสามพื้นที่ปฏิบัติการ” หรือ “Two Oceans and Three Areas (OOAAA/Double O Triple A) เพื่อให้สามารถใช้กำลังทางเรือได้พร้อมกันทั้งสองฝั่งทะเล และสามพื้นที่ปฏิบัติการทัพเรือภาคอย่างสมดุล
กองทัพอากาศ ได้นำเสนอแนวทางการเชื่อมโยงและช่วยเหลือประชาชน (Quality Civic Actions) ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก 6 ด้านของผู้บัญชาการทหารอากาศ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ระดมสรรพกำลังทั้งปวงเพื่อเตรียมพร้อมและตอบสนองภารกิจด้านบรรเทาสาธารณภัยทั้งในมิติของการป้องกัน การให้ความช่วยเหลือ การฟื้นฟู และการนำเทคโนโลยีทางทหารมาใช้ในการวางแผนป้องกันสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันเหตุการณ์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงโครงการสร้างโรงงานผลิตกระสุนในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจทั่วประเทศ จำนวน 12 แห่ง ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และขยายเพิ่มแห่งที่ 13ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกระสุนปืนสำหรับการปฏิบัติงานและการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินในการจัดซื้อกระสุนปืน และสนับสนุนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถพึ่งพาตนเองได้
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวเน้นย้ำให้เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงความต่อเนื่องในการสนับสนุนภารกิจจิตอาสาพระราชทานเพื่อสนองพระราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขเพื่อให้ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งให้ดำรงความต่อเนื่องในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติและเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค และให้เฝ้าระวังเหตุการณ์ไฟป่าในห้วงฤดูร้อน รวมถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 08.30 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางไปยัง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยมี พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เชิญ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ก่อนลงนามในสมุดเยี่ยม
ต่อมาในเวลา 09.00 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทาง โดยเรือ ขส.ทร.1209 ไปยังหอประชุมกองทัพเรือ เพื่อเข้าร่วมการประชุม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยก่อนการประชุม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบเครื่องหมายความสามารถกิตติมศักดิ์ของกองทัพเรือ ให้แก่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศและ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา ซึ่งการประชุม ผู้บัญชาการเหล่าทัพในครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 3 ในปีงบประมาณ 2565ซึ่งกองทัพเรือ ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้แต่ละเหล่าทัพเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม