สมุทรสงคราม-เตรียมพร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุมโรค คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม เตรียมพร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุมโรค หลังศบค.มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วราชอาณาจักร 1 เมษายน 2565 นี้ พร้อม
สมุทรสงคราม-เตรียมพร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุมโรค คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม เตรียมพร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุมโรค หลังศบค.มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วราชอาณาจักร 1 เมษายน 2565 นี้ พร้อม
ที่ห้องประชุมบางคนที ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม ประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ โดยมีนายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้กำชับให้ทุกภาคส่วน เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะสายพันธุ์โอไมครอน ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แม้ไม่มีอาการรุนแรง แต่มีการแพร่ระบาดง่าย บุคลากรทางการแพทย์ต้องดูแลประชาชนทุกคนให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลเท่าเทียมกัน และขอให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยของตนเองอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงไปในที่ชุมชน เว้นระยะห่างในการทำกิจกรรม หมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำกับสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากตลอดเวลา และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ขอให้ทุกคนดูแลตนเองให้มากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ และตรวจ ATK ทุก 7 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
สำหรับ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดสมุทรสงคราม ผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวน 8,904 ราย ร้อยละ 58 เป็นกลุ่มอายุ 18-59 ปี เสียชีวิตสะสม 9 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ติดชื้อจากคนในครอบครัว รวมทั้งการปรับระดับพื้นที่ควบคุมโรคของศบค. ที่มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยจังหวัดสมุทรสงครามอยู่ในพื้นที่สีเหลือง ซึ่งเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งได้มีมาตรการเฉพาะพื้นที่ คือ ไม่มีการห้ามออกจากเคหสถาน ร้านอาหารนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ตามปกติ จำกัดเวลาจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ไม่เกิน 23.00 น. สถานศึกษา ร้านสัก นวด สปา ร้านสะดวกซื้อ ตลาดและตลาดนัด ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ตามปกติ และห้ามจัดกิจกรรมรวมตัวกันเกินกว่า 1,000 คน
นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และผู้เสี่ยงสัมผัส ในส่วนของผู้ป่วยที่อยู่ในระบบ HI (Home Isolation) และ CI (Community Isolation) ให้ดูแลในลักษณะเดิมต่อไปจนกว่าผู้ป่วยจะปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19
