พิษณุโลก : สมาชิกสหกรณ์ปลื้ม รับเงินชะลอขายข้าวเปลือกในโครงการของรัฐ ตันละ 500 บาท

วันนี้ (24 มี.ค.65) นายนรสีห์ สุดวิลัย สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดงานมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้กับสมาชิก โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/2565 พร้อมด้วย นายจรัญ พงษ์เผ่า ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 2 ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/2565 ระหว่าง นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด กับ นายสะท้าน วรรณา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส. จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้ง ร่วมมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกฯ และกิจกรรมส่งเสริมซุปเปอร์มาร์เก็ตของสหกรณ์ฯ ให้กับสมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ ที่ตลาดสินค้าเกษตร สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด จังหวัดพิษณุโลก

นายนรสีห์ สุดวิลัย สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก สนับสนุนให้สหกรณ์ฯ เข้าร่วมโครงการนี้ กับ ธกส. โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตลาด เช่นเครื่องอบ โกดัง และไซโลเป่าลมเย็นขนาด 3,000 ตัน โดยใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ให้กับสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เพื่อรวบรวมผลผลิตเข้าร่วมโครงการ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อแสดงให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกได้เห็นว่า พอเข้าร่วมโครงการแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และให้เกษตรกรเห็นว่าได้รับผลประโยชน์ตามนโยบายของรัฐบาลจริง ในอนาคตจะได้มีเกษตรกรสมัครเป็นสมาชิกของสหกรณ์เพิ่มขึ้นด้วย

ด้าน นางปิยาพัชร สุจรรยา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด กล่าวว่า กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาราคาข้าวเปลือกให้มีเสถียรภาพ โดยเก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก และช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่เกษตรกรระหว่างรอการขายผลผลิต และต้องการให้สมาชิกของสหกรณ์ได้เกิดความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับโครงการ วันนี้มีสมาชิกมารับเงินจำนวน 66 ราย น้ำหนักข้าวสด 992,061 กิโลกรัม ยุบตัวเป็นข้าวแห้ง 135,361 กิโลกรัม ข้าวแห้งคงเหลือ 856,700 กิโลกรัม โดยสหกรณ์ฯ ได้ขอเบิกเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกตันละ 500 บาท คืนให้แก่สมาชิก เป็นเงินทั้งสิ้น 428,350 บาท ในส่วนของสหกรณ์ฯ ก็จะได้เงินตันละ 500 บาท เช่นกัน

นายสะท้าน วรรณา ผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส.จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เนื่องจากว่าพฤติกรรมเกษตรกรที่ปลูกค้า เดี๋ยวนี้ไม่มียุ้งฉางในการเก็บข้าว ผลผลิตที่ออกมาก็พร้อมกัน ซึ่งจะมีปัญหาในเรื่องของราคา ทางรัฐบาลจึงได้มีนโยบายให้พี่น้องเกษตรกรสามารถข้าวที่ยังไม่ต้องการขายก็ให้นำมาฝากกับสถาบันเกษตรกร โดยเฉพาะที่สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม โดยกำหนดไว้ว่าเมื่อนำมาฝากไว้ ก็จะได้ค่าฝากอีกด้วย จึงขอเน้นย้ำพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าว ซึ่งหากลงมือในการปลูกข้าว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าว สิ่งนี้จะต้องทำและละเลยไม่ได้ แม้กระทั่งปลูกพืชอะไรก็ต้องไปขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อรัฐจะได้เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป