23/11/2024

กระทรวงแรงงาน แจง ลดเงินสมทบไม่กระทบต่อเสถียรภาพกองทุนประกันสังคม

กระทรวงแรงงาน แจง ลดเงินสมทบไม่กระทบต่อเสถียรภาพกองทุนประกันสังคม

 


นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน หนึ่งในนั้นคือการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือ นายจ้าง และผู้ประกันตน ซึ่งได้รับ ความเดือดร้อนจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 และสถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซีย และยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต และบริการของทั้งในและต่างประเทศ สำนักงานประกันสังคม พร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การดำเนินงาน โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มุ่งช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกันตนในยามเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว การลดเงินสมทบในครั้งนี้ จะส่งผลให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบที่ลดลงไปใช้เพิ่มกระแสเงินสดให้ผู้ประกันตนมีสภาพคล่องมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19ที่ยังคงระบาดลูกจ้างผู้ประกันตนติดเชื้อต้องรักษาตัวไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทำให้ขาดรายได้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกันตนมีเงินไว้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังช่วยแบ่งเบา ลดภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับนายจ้าง เพิ่มศักยภาพในการรักษาการจ้างงานส่งผลให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง เงินสมทบที่ลดลงมากกว่า 30,000 ล้านบาท จะกลายเป็นเม็ดเงินที่นำมาใช้จ่ายช่วยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ต่อไป


รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปว่า ต่อข้อห่วงใยที่มีความกังวลว่าการลดอัตราเงินสมทบนั้น จะมีผลต่อการรับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพหรือไม่ ขอชี้แจงว่าการลดอัตราเงินสมทบนั้นจะไม่มีผลต่อสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพและสิทธิประโยชน์กรณีอื่นๆแต่อย่างใด เพราะการคำนวณสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญคิดจากฐานค่าจ้างเงินเดือน ไม่ได้คิดจากอัตราเงินสมทบที่ส่งเข้ากองทุน ดังนั้นผู้ประกันตนก็จะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญเท่าเดิม
การลดอัตราเงินสมทบอาจกระทบต่อการรับบำเหน็จฃองผู้ประกันตน เนื่องจากการจ่ายกรณีบำเหน็จ จะคำนาณจากเงินสมทบกรณีชราภาพที่ผู้ประกันตนและนายจ้างสมทบเข้ากองทุน รวมผลประโยชน์ตอบแทน ดังนั้น เมื่อลดอัตราเงินสมทบกรณีชราภาพลง ผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับบำเหน็จชราภาพก็จะได้รับเงินบำเหน็จที่ลดลง ด้วยความห่วงใยของท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้มีข้อสั่งการท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ดูแลสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนในกรณีดังกล่าวด้วย ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น จึงได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมไปพิจารณานำเงินสมทบในส่วนของรัฐบาลที่ได้อุดหนุนเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ เข้ากองทุน มาเพิ่มเงินบำเหน็จให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิในช่วงที่มีการลดเงินสมทบในช่วงดังกล่าว
สำหรับเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมนั้น ถึงแม้จะมีการลดเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนและนายจ้าง ขอเรียนว่าสำนักงานประกันสังคม
มีการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้มีการเติบโตในระยะยาวเพื่อให้มีเงินกองทุนเพียงพอสำหรับการจ่ายสิทธิประโยชน์ทุกกรณี โดยไม่กระทบเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคม และที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคม ได้พิจารณาการลงทุนโดยนักลงทุนมืออาชีพอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่พี่น้องผู้ประกันตนที่เป็นเจ้าของเงินกองทุนร่วมกัน และได้มีการเปิดเผยข้อมูลผลตอบแทนของกองทุนฯ ให้ทราบทั้งรายปีและรายไตรมาส ผ่านทางเว็บไซต์ สปส. www.sso.go.th โดยการลงทุนมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งผลการบริหารกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ดอกผลสะสมจากการลงทุนกว่า 8.34 แสนล้านบาท จึงขอให้พี่น้องผู้ประกันตนทุกท่านเชื่อมั่นในเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมว่ามีเพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนในระยะยาวอย่างแน่นอน รวมถึงไม่กระทบกับบำนาญที่จะได้รับในอนาคต
นโยบายการลดเงินสมทบและเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีบำเหน็จในช่วงที่มีการลดเงินสมทบดังกล่าว จะเสนอต่อคณะกรรมการประกันสังคมพิจารณา โดยจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายโดยเร็ว จึงขอให้นายจ้างและผู้ประกันตนมั่นใจการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคมในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้ประกันตนให้ตรงจุดและทันท่วงทีเนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ปากท้องของพี่น้องผู้ใช้แรงงานเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบเงินสะสมกรณีชราภาพได้ผ่านทาง เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือ SSO Mobile App : SSO CONNECT และทาง LINE : @SSOTHAI สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
———————————————-

ข่าวที่น่าติดตาม