23/11/2024

มองโกเลียเผชิญความเสี่ยงสูงจากที่ราบกว้างใหญ่และไฟป่า

มองโกเลียเผชิญความเสี่ยงสูงจากที่ราบกว้างใหญ่และไฟป่า

 


อูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย – ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติเตือนว่าจำนวนไฟป่าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2100 และรัฐบาลต่างๆ ไม่พร้อมที่จะเผชิญกับปรากฏการณ์นี้
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ในประเทศมองโกเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในเอเชียตะวันออก
การขาดน้ำฝนและสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงทำให้เกิดไฟป่าที่ราบกว้างใหญ่และไฟป่า ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์


ฤดูที่เกิดเพลิงไหม้สูงสุดมักเริ่มในปลายเดือนมีนาคมและสิ้นสุดจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน และช่วงอื่นเริ่มระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน
นอกจากนี้ยังพบความแห้งแล้งที่รุนแรงและเกิดซ้ำในมองโกเลียด้วย ทั้งความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
E.Enkh-Amgalan พันตรีที่สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติและผู้เชี่ยวชาญอาวุโสแห่งกองดับเพลิงกล่าวว่า 4 ถึง 5 ป่าข้ามพรมแดนและไฟบริภาษเกิดขึ้นทุกปี
E.Enkh-Amgalan พันตรีที่สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติและผู้เชี่ยวชาญอาวุโสแห่งกองดับเพลิงกล่าวว่า 4 ถึง 5 ป่าข้ามพรมแดนและไฟบริภาษเกิดขึ้นทุกปี
เขาขจัดความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าและที่ราบกว้างใหญ่ในจังหวัด Gobi-Altai, Bayankhongor, Arvaikheer, Umnugovi และ Dundgovi อันเนื่องมาจากทะเลทรายจำนวนมาก


“ตั้งแต่ต้นปี 2565 ไฟป่าและที่ราบกว้างใหญ่ 10 แห่งได้รับการจดทะเบียนใน 9 แหล่งจาก 5 จังหวัด ตามการประมาณการเบื้องต้น พื้นที่ 150,000 เฮกตาร์ถูกเผา” เขากล่าวเสริม
N.Khishigbaatar พันโทสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติและผู้เชี่ยวชาญอาวุโสแผนกดับเพลิง เตือนผู้ขับขี่รถยนต์ถึงอันตรายจากการทิ้งรถไว้ในที่ร้อนจัดซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ได้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวถึงกิจกรรมของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดการระบาดของไฟ ได้แก่ แคมป์ไฟ การขว้างขวดแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มในที่โล่ง การจุดไฟทำอาหาร การไม่ดับบุหรี่ โดยระบุว่า ก.พ.ร. และสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติออกคำสั่งอย่างเป็นทางการเป็นประจำทุกปี สำหรับประชาชน

ที่มา A24 News Agency

ข่าวที่น่าติดตาม