นราธิวาส-ผอ.ศปพร.ลงพื้นที่ ขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูไทยพุทธเสริมสร้าง พัฒนาศาสนสถานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
นราธิวาส-ผอ.ศปพร.ลงพื้นที่ ขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูไทยพุทธเสริมสร้าง พัฒนาศาสนสถานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2565 เวลา 0900 น. ณ ที่พักสงฆ์ราษฎร์บำรุงธรรม ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส
พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย คุณสมฤดี ขำเขียว ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารราบที่ 15 เดินทางลงพื้นที่ กราบนมัสการ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ เพื่อขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง กิจกรรมการสนับสนุนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงภัย ไม่สามารถบิณฑบาตได้ พร้อมทั้งได้พบปะพี่น้องประชาชนไทยพุทธในพื้นที่ ซึ่งบ้านบาโงไอร์ซา เป็นหมู่บ้านไทยพุทธเสริมสร้างซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 เป็นต้นมาโดย พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ได้พูดคุยสอบถามอาการ สภาพความเป็นอยู่ ให้กำลังใจพร้อมมอบความห่วงใย และมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
ทั้งนี้ชุมชนดังกล่าว เป็นชุมชนไทยพุทธ ที่มีชุมชนมุสลิมล้อมรอบ โดยมีพี่น้องประชาชนไทยพุทธอาศัยอยู่ในชุมชน 209 ครัวเรือน จำนวน 1,306 คน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ของชุมชน เป็นผู้สูงอายุ อาศัยอยู่โดยลำพัง ขาดคนดูแล บุตรหลานออกไปทำงานในต่างพื้นที่ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค -19 จากการลงพื้นที่ได้รับทราบปัญหา และความต้องการของชุมชนที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล ยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ให้แนวทางในการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้พี่น้องไทยพุทธในพื้นที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ พร้อมกล่าวเน้นย้ำกับพี่น้องไทยพุทธว่า พวกเราคือ “ครอบครัวเดียวกัน” ตลอดจนมอบถุงยังชีพ สร้างความซาบซึ้งใจแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยมี พันเอกภาคิน เกื้อกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 พันโท วัตสันต์ โพธิ์สุภาพพร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 151 พันตำรวจตรี สุทิพย์ นิลล์วิสุทธิ์ รองสารวัตรสถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้อง นายเอกวิทย์ จันทวงศ์ ปลัดอาวุโส อำเภอเจาะไอร้อง นายวิจิตร สกุลแก้ว ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดนราธิวาส สมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) เจาะไอร้อง และสมาชิกชุมชนไทยพุทธบ้านบาโงไอร์ซา ร่วมให้การต้อนรับ
จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว และคณะ ร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ พี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) เจาะไอร้อง พี่น้องสมาชิกชุมชนไทยพุทธบ้านบาโงไอร์ซา พี่น้องประชาชนจิตอาสา และกำลังพลจิตอาสา ร่วมแรง ร่วมใจ ทาสีโรงครัว พัฒนาศาสนสถาน และทำความสะอาดโดยรอบบริเวณที่พักสงฆ์ราษฎร์บำรุงธรรม ตามโครงการพัฒนาศาสนสถาน เพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ ซ่อมแซม วัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ที่ชำรุดทรุดโทรมให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงเพื่อใช้ในการปฏิบัติศาสนพิธีได้ ก่อเกิดการความสามัคคีขึ้นในพื้นที่ ในการนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1. นายวิรัตน์ แก้วศรี อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นโรคอัมพฤกษ์ ณ บ้านเลขที่ 89 หมู่8 บ้านบาโงไอซา ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส
และ 2. นางประทุม ไชยแสง อายุ 65 ปี ซึ่งผู้ป่วยติดเตียง เป็นโรคจิตเวช และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ณ บ้านเลขที่ 72/2 หมู่8 บ้านบาโงไอซา ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส โดยได้พูดคุยสอบถามอาการ สภาพความเป็นอยู่ พร้อมมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบ เข้าสนับสนุนส่งเสริมแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในด้านปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่ ได้แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ และผู้พิการ ซึ่งต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับความช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน จึงได้ลงพื้นที่ ไปมอบความห่วงใย และมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อขวัญและกำลังใจ พร้อมทั้งเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ขับเคลื่อนแผนงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ส่วนราชการในพื้นที่ สนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนไทยพุทธในชุมชน ตลอดจนกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ ให้สามารถพึ่งพาตนเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดความเชื่อมั่นและรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่ รวมถึงเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหา และตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างตรงจุด และเกิดประโยชน์สูงสุด แก่พี่น้องประชาชนไทยพุทธ และไทยมุสลิมในพื้นที่ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม พร้อมทั้งน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ” แนวทางตามโครงการพระราชดำริ เป็นการปฎิบัติตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง โดยมุ่งหวังมิให้เกิดการละทิ้งถิ่นฐานของประชาชนในพื้นที่ จชต. ส่งเสริมการประกอบอาชีพของชุมชนไทยพุทธให้สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง และครอบครัว รวมถึงการเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อาทิเช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อการพึ่งพาตนเอง สร้างแรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนกลับมายังถิ่นฐานเดิม
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส