ปราจีนบุรี-ชาวบ้านผงะเดินป่าออกหาน้ำผึ้งพบโครงกระดูกมนุษย์กระจายเกลื่อน

วันที่ 12 เมษายน 2565 พ.ต.อ.อัครเดช ฟูแสง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งจากนางบรรจง แพงสุข อายุ 58 ปี สารวัตรกำนันตำบลบางเดชะ ว่ามีชาวบ้านเข้าไปหาผึ้งในป่ายูคา พบโครงกระดูกคาดว่าน่าจะเป็นกระดูกมนุษย์ ลักษณะกระจัดกระจายอยู่ในป่าเป็นบริเวณกว้าง หลังจากรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นที่เกิดเหตุอยู่บริเวณ แปลงสวนยูคาห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 500 เมตร หมู่ที่ 1 ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งในพื้นที่มีต้นไมยราบจำนวนมาก ได้พบโครงกระดูกมนุษย์ จำนวน 2 จุด จุดแรกคาดว่าเป็นชิ้นส่วนก้นกบและขา อีกจุดหนึ่งพบเป็นกะโหลกศีรษะ และมีชิ้นส่วนอื่นๆ กระจายโดยรอบ ใกล้กับจุดพบโครงกระดูกนั้นได้พบกระเป๋าเสื้อผ้า 1ใบ

จากการสอบถาม นางบรรจง แพงสุข ซึ่งเป็นสารวัตรกำนันตำบลบางเดชะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีชาวบ้านที่ออกหาของป่าหรือน้ำผึ้งป่าได้เข้าไปหาตนที่บ้านและได้ตะโกนร้องบอกว่า พบโครงกระดูกคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ จึงรีบให้ตัวเองเข้าไปตรวจสอบ หลังจากรับแจ้งตนได้ เข้าพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นเข้ามาในป่าลึกก็พบลักษณะเป็นกระดูกเหมือนโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าว จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบต่อไป

เบื้องต้นจากการสอบถามนายยุทธนา สนามน้อย อายุ 37 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บางเดชะ จากการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายสนิท ยะหะตะ อายุ 60 ปี ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 6 ม.16 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อนหน้านี้ นายสนิท หลังจากที่ได้มีการตรวจร่างกาย พบว่านายสนิทได้ติดเชื้อโควิค-19 ที่ โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ แล้วได้หนีจากการกักตัวออกไป ซึ่งทางญาติพยายามตามหาแต่ไม่พบ จนมาวันนี้พบว่ากลายเป็นศพ

เบื้องต้นทางด้าน พลตำรวจตรีวินัย นุชชา ผู้บัญชาการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ให้ข้อมูลไปในทางทิศทางเดียวกันว่า ศพที่พบคาดว่าน่าจะเป็นนายสนิท ยะหะตะ ซึ่งทางชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่ปรากฏตามทะเบียน แต่ยังไม่พบตัวญาติพบแต่ผู้ที่เป็นลูกเขย ได้ให้ข้อมูลว่า โครงกระดูกดังกล่าวนั้นเป็นบุคคลตามบัตรประชาชน คาดว่าน่าจะเป็นพ่อตาของตน เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วได้เกิดติดเชื้อโควิค 19 ต้องทำการกักตัวที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ แต่ระหว่างการกักตัวนั้นได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมา ทั้งนี้ต้องรอทางญาติติดต่อมาอีกครั้ง