ผืนป่าที่ได้รับการคุ้มครองในดินแดนที่รกร้างว่างเปล่า

การประเมินทะเลทรายทั่วประเทศพบว่า 76.9 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ดินแดนทั้งหมดของมองโกเลียหรือ 120.3 ล้านเฮกตาร์ได้รับผลกระทบจากทะเลทรายจากพื้นที่ทั้งหมด คาดว่า 30 ล้านเฮกตาร์จะถูกทิ้งร้างอย่างหนัก ตามการประเมินที่ดำเนินการในปี 2020

จากการสำรวจพบว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกต่ำในภูมิภาค Gobi และบริภาษส่งผลกระทบต่อ 50-95 เปอร์เซ็นต์ของอาณาเขตทั้งหมดของ Govisumber, Dornogovi, Dundgovi, Tuv, Umnugovi, Uvurkhangai, Bayankhongor และ Gobi-Altai ซึ่งได้รับผลกระทบจากการทำให้เป็นทะเลทรายและ การเสื่อมโทรมของที่ดิน

การสำรวจกล่าวถึงวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดการแปรสภาพเป็นทะเลทราย ซึ่งรวมถึงการป้องกันจากการเคลื่อนตัวของทราย การจัดตั้งแถบป่าป้องกัน การฟื้นฟูโอเอซิสโกบี และการสร้างเครื่องกีดขวางทางกลเพื่อชะลอการเคลื่อนที่ของทรายในพื้นที่ 265 เฮกตาร์ของดินแดนที่รกร้างว่างเปล่า กระทรวงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวได้ประกาศให้มีการจัดตั้งเขตป่าสงวนขึ้นในปีนี้ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า

G.Ganzorig หัวหน้าเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป่าไม้ของ Forest Reproduction and Rehabilitation กล่าวว่ารัฐบาลจะใช้ต้นไม้ 30% ของจำนวนนับพันล้านต้นในการปกป้องการแปรสภาพเป็นทะเลทรายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปลูกต้นไม้นับพันล้านต้น “เราวางแผนที่จะสร้างเข็มขัดสีเขียวเพื่อป้องกันพายุทราย จุดน้ำในทะเลทรายโกบี แถบป้องกันโอเอซิส และปลูกต้นไม้บนถนนและทางรถไฟเนื่องจากพายุทรายในมองโกเลีย” แกนโซริกกล่าว

หัวหน้ากรมการท่องเที่ยวสิ่งแวดล้อมของจังหวัดพยังฆง้อกล่าวว่าจังหวัดของเขาได้ลงนามในข้อตกลงที่จะปลูกต้นไม้ 20 ล้านต้นภายในสิ้นปี 2573 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการต้นไม้นับพันล้านต้นระดับชาติ
เขาเสริมว่าแผนกนี้ตั้งใจที่จะปลูกต้นไม้ 500,000 ต้นภายในปี 2565 โดยบอกว่าแผนนี้ “เต็มกำลัง”