บก.สส.สตม. รวบสาวแสบ ลวงเหยื่อ ขู่บังคับทำ Call center
บก.สส.สตม. รวบสาวแสบ ลวงเหยื่อ ขู่บังคับทำ Call center
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ดังนี้
เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2563 มีผู้เสียหายได้เข้าไปดูในเว็บไซต์เครือค่ายสังคมออนไลน์ (FACEBOOK) กลุ่มหางานแม่สอด แล้วได้โพสหางานไว้ ต่อมามี น.ส.ฟาริน หรือ มุก ซึ่งเป็นแอดมินขายของชายแดนแม่สอด ได้มาชักชวนผู้เสียหายไปทำงานเป็นแอดมินขายของชายแดนแม่สอด โดยเริ่มไปทำงานเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 แต่เมื่อถึงวันนัดหมายผู้เสียหายจึงทราบความจริงว่าถูกหลอกให้ทำงานเป็นพนักงานของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ เพื่อที่จะหลอกลวงเหยื่อให้โอนทรัพย์สินให้ ทำหน้าที่หลอกลวงคนไทยด้วยกัน ซึ่งมีหัวหน้าใหญ่หรือ BOSS เป็นคนจีน และต้องทำงานที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ โดยขณะอยู่ที่ทำงานจะถูกยึดเครื่องมือสื่อสารไม่ให้ติดต่อกับใคร และหากไม่ยอมทำงานหรือทำตามคำสั่ง ก็จะถูกลงโทษโดยการทำร้ายร่างกาย ภายหลังจากที่ผู้เสียหายได้หนีกลับมายังประเทศไทยได้เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564
จึงได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ทั้งนี้ในกลุ่มผู้เสียหายนั้นมีเยาวชนรวมอยู่ด้วย 4 ราย จากการสืบสวนสอบสวนผู้เสียหายขบวนการนี้มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติผู้เสียจำได้เพียงใบหน้าและชื่อที่ใช้เรียกกันในแก๊ง ไม่ทราบรายละเอียดของตัวการชาวต่างชาติ อีก 3 ราย แต่สามารถจำนางสาวฟารีน หนึ่งในแก๊งคนร้ายที่ลวงผู้เสียหายไปทำงานได้ พนักงานสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ไม่ได้มาและได้มีพฤติการณ์หลบหนีจากอำเภอแม่สอด ศาลจังหวัดแม่สอดจึงอนุมัติหมายจับที่ ๘/๒๕๖๕ ลง วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ได้ออกหมายจับนางสาวฟารีน เป็นตัวการร่วมกับ MR. MICHAEL สัญชาติ ไต้หวัน, MR. AHLANG และ MR. EHAO สัญชาติ มาเลเซีย ในข้อหา “ร่วมกันค้ามนุษย์ และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์”
พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.๒ บก.สส.สตม.สั่งการให้ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ แสงบัณฑิตย์ สว.กก.๒ บก.สส.สตม. และชุดสืบสวน กก.๒ บก.กก.สตม. กำชับให้ดำเนินการสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.๒ บก.สส.สตม. ได้ทำการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวพิสูจน์ทราบว่า นางสาวฟารีน หลบซ่อนตัวที่บ้านพักแห่งหนึ่งต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขออนุมัติต่อศาลขอหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต
เข้าจับกุมตัว
ต่อมา พ.ต.ท.พิเชษฐ์ แสงบัณฑิตย์ สว.กก.๒ บก.สส.สตม. ร.ต.อ.อณิรุจน์ อัตถาผล รอง สว.กก.๒ บก.สส.
สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.๒ บก.สส.สตม. ได้ทำการแสดงหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต เจ้าบ้านและได้เข้าจับกุมตัว
น.ส.ฟารีน พร้อมทั้งได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามหมายจับศาลจังหวัดแม่สอดที่ ๘/๒๕๖๕ ลง วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์” ส่งให้ สภ.แม่สอดดำเนินคดีและขยายผลเพื่อหาตัวผู้ร่วมขบวนการมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง