กาฬสินธุ์ คุมตัวแก๊งสังหารสองตายายกาฬสินธุ์ทำแผนแค้นปมขัดแย้งที่ดินสปก.

ตำรวจคุมตัวเสี่ยสอน พร้อมหลานชายแก๊งร่วมสังหารสองตา-ยาย ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมแจ้งข้อหาหนัก ขณะที่ญาติและชาวบ้านเรียกร้องให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัวหวั่นความปลอดภัย

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกอาจบุกยิงศีรษะนายประเทือง อามาตสมสี อายุ 71 ปี และนางนวน อามาตสมสี อายุ 64 ปี สองสามีภรรยา ภายในบ้านพักเลขที่ 170 ม.9 ต.นาจําปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ทำให้นางนวนเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายประเทือง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในวันต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กำชับและสั่งการให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและก่อเหตุอุกอาจ กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสมาน ดิษสลุง อายุ 57 ปี หรือเสี่ยสอน นายพร้อมพงศ์ ชวดสลุง อายุ 31 ปี หลานชาย และกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวนายเอกสิทธิ์ ดิษสลุง อายุ 51 ปี ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยสอน ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นชาว จ.ลพบุรี และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ในข้อหาฆ่าผู้อื่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมีการแถลงข่าวผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูนำโดย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และสภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์คุมตัวนายสมาน ดิษสลุง อายุ 57 ปี หรือเสี่ยสอน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ118/2565 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น และนายพร้อมพงศ์ ชวดสลุง อายุ 31 ปี หลานชายเสี่ยสอน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ120/2565 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้าบ้านเลขที่ 170 ม.9 ต.นาจําปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

โดยการทำแผนนายสมาน ดิษสลุง อายุ 57 ปี หรือเสี่ยสอน ซึ่งเป็นนายทุน มีที่ดินสปก.ในพื้นที่หลายร้อยไร่ และเป็นคู่ขัดแย้งเรื่องที่ดินสปก.และมีปัญหาทะเลาะมีความแค้นกับนายประเทืองมาตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากนายประเทือง และนางนวน เป็นผู้รวบรวมที่ดินสปก.ขายให้กับนายสมาน หรือเสี่ยสอน ซึ่งวันเกิดเหตุได้ขับรถกระบะมาจอดหน้าบ้าน โดยมีนายพร้อมพงศ์ หลานชาย และนายเอกสิทธิ์ ลูกพี่ลูกน้อง ที่นายสมานไปรับตัวมาจาก จ.ลพบุรี นั่งมาด้วย ก่อนที่นายเอกสิทธิ์ จะลงจากรถไปจ่อยิงหัวนายประเทืองที่นั่งกินข้าวอยู่เก้าอี้พลาสติกหน้าบ้าน ซึ่งระหว่างนั้นนางนวน ภรรยานายประเทืองที่อยู่ในบ้าน และอาจจะเห็นเหตุการณ์จึงถูกนายเอกสิทธิ์ตามเข้าไปยิงด้วย ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิต ก่อนจะพากันหลบหนี กระทั่งตำรวจตามจับกุมได้ ซึ่งนายสมาน และนายพร้อมพงศ์ อ้างว่านั่งอยู่ในรถ ทั้งนี้การทำแผนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นายสมาน และนายพร้อมพงศ์ไปทำแผน 2 คน เนื่องจากนายเอกสิทธิ์ ที่ถูกให้การว่าเป็นมือปืน อยู่ระหว่างนำตัวมาจาก จ.ลพบุรี เพื่อสอบปากคำและนำตัวไปแถลงข่าว หลังจากเข้ามอบตัว

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงผลการจับกุมตัวทั้ง 3 คน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสมาน และนายพร้อมพงศ์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยแจ้งข้อหาเบื้องต้นร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยพนักงานสอบสวนและญาติผู้เสียชีวิต จะดำเนินการคัดค้านการกระกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เกรงว่าจะมายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และความปลอดภัย ส่วนนายเอกสิทธิ์ อยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด
นางสาววิยะดา อามาตสมสี อายุ 39 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากตำรวจจับกุมตัวผู้ที่ร่วมกันยิงพ่อและแม่ได้ตนและญาติๆ รวมทั้งชาวบ้านก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น จึงอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องของคดีก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ให้ได้รับโทษสูงสุด
ด้านนายคำหมื่น มาตรอำพร อายุ 69 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า โล่งใจมากที่ตำรวจจับได้ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่อยากให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกมา เพราะชาวบ้านเป็นห่วงกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย ซึ่งหากได้รับการประกันตัวชาวบ้านจะรวมตัวกันคัดค้าน และอยากให้ได้รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตตายไปตามกันเลย จึงอยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวด้วย