“บิ๊กฮง” ต้อนรับ ฮีโร่คิวสปอร์ต ยกความสำเร็จครั้งนี้ให้นักกีฬาและทีมงานทุกคน เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ
“บิ๊กฮง” ต้อนรับ ฮีโร่คิวสปอร์ต ยกความสำเร็จครั้งนี้ให้นักกีฬาและทีมงานทุกคน เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ
นายกสนุ้ก ยกความสำเร็จครั้งนี้ให้นักกีฬาและทีมงานทุกคน เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ ในวันพุธที่ 25 พ.ค.นี้ ที่ โฮคิทเช่น พระราม 3 ขณะที่ ฮีโร่ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม เจ้าของเหรียญทองประวัติศาสตร์ในการรับใช้ทีมชาติของตัวเอง เปิดใจ ตั้งมั่นมานานแล้วถ้าติดทีมชาติจะต้องคว้าความสำเร็จมาให้ได้ หลังจากล้มเหลวในเอเชียนเกมส์ ที่ไทย เมื่อ 24 ปีที่แล้ว แต่คราวนี้ทำได้ เป็นความทรงจำที่ดี จากนี้ไปอยากรับใช้ชาติในซีเกมส์ อีก 2 สมัย
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ “บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดิษทัต ภูริประโชติ อุปนายกเลขาธิการสมาคม และนายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมฯ ได้ให้การต้อนรับและแสดงความยินดี ต่อความสำเร็จของทัพสอยคิวไทย, ผู้จัดการทีม และสตาฟ์โค้ช ที่เดินทางกลับจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ประเทศเวียดนาม ด้วยการคว้าผลงาน 1 เหรียญทอง จาก สนุกเกอร์ 15 แดง “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย”วัฒนา ภู่โอบอ้อม จอมคิวขวัญใจชาวไทย และอีก 8 เหรียญทองแดง โดยบรรยากาศการต้อนรับฮีโร่เป็นไปอย่างอบอุ่น มีคุณแม่พลอยรุ้ง มารับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย และอีกหลายครอบครัว
“บิ๊กฮง”สุนทร จารุมนต์ นายกสอยคิว กล่าวว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับทีม คิวสปอร์ต ทุกคนที่สร้างความสำเร็จให้คนได้มีความสุข ผลงาน 1 เหรียญทอง 8 เหรียญทองแดง ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่ได้วางไว้ ก็ต้องยกความสำเร็จในครั้งนี้ให้กับ ไชยพงษ์ กรมสุรมย์ ผู้จัดการทีม และ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่คว้าเหรียญทอง รวมถึงนักกีฬาทุกคน ที่มุ่งมั่นฝึกซ้อมกันมาอย่างยาวนาน สมาคมเตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้กับทุกคนในวันพุธที่ 25 พฤษภาคมนี้ ที่ภัตราคาร โฮคิทเช่น พระราม 3
ขณะที่ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ฮีโร่เหรียญทองประวัติศาสตร์ในการรับใช้ทีมชาติของตัวเองว่า ตนรู้สึกมีความสุขในวันนี้ มันเป็นเกียรติประวัติของตนอีกครั้งในการรับใช้ทีมชาติ ซึ่งตนได้คิดเอาไว้ตั้งนานแล้วว่า ถ้าได้รับใช้ทีมชาติ ตนจะต้องคว้าความสำเร็จมาให้ได้ เพราะตนเคยลงแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อประมาณ 24 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยอมรับว่า ตนทำผลงานไม่ดีเลย มันจึงเป็นสิ่งที่คิดมาตลอด ตอนไปแข่งขันวันแรกๆ ตนเห็นโต๊ะแข่งขันแล้ว มันแทงยาก ก็คิดว่าทำผลงานให้ดีที่สุด แต่สุดท้ายสามารถคว้าเหรียญทองปิดท้ายให้ทีมได้ หลังจากนี้ ตนจะติดทีมชาติอีกหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางสมาคม เพราะตอนนี้ตนก็อายุ 52 ปีแล้ว แต่อยากจะรับใช้ทีมชาติในซีเกมส์อีกสัก 2 สมัย
ด้านไชยพงษ์ กรมสุรมย์ ผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่รวมใจกันคว้าความสำเร็จในครั้งนี้ และขอบคุณสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ที่ให้โอกาสตนเป็นผู้จัดการทีม หลังจากนี้ ตนเตรียมหาวันดีเพื่อมอบเงินอัดฉีดให้กับความสำเร็จครั้งนี้ ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท