“บิ๊กฮง” ยืนยันเสียงแข็ง “สนุกเกอร์” ต้องมี “ต๋อง”
สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เลี้ยงฉลองความสำเร็จให้นักสอยคิวชุดซีเกมส์ อย่างอบอุ่น พร้อมทั้งยืนยัน “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ยังสวมตำแหน่งกัปตันทีม ล่าเหรียญทองซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา ปีหน้า ต่อไป
หลังจากที่บรรดานักกีฬาสอยคิวทีมชาติไทย ที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ณ ประเทศเวียดนาม ประสบความสำเร็จ ด้วยการคว้า 1 เหรียญทอง ในประเภทสนุกเกอร์ 15 แดง จากกัปตันทีม “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม พร้อมกับ 8 เหรียญทองแดง จาก บิลเลียด, พูล และ แคร่อมบอล ซึ่งนักกีฬาทั้ง 4 ประเภท ได้เดินทางกลับถึงเมืองไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ยกเว้น สุริยา สุวรรณสิงห์ (หรั่ง พัทยา) เพียงคนเดียว ที่จะตามมากลับมาในวันที่ 29 พฤษภาคม นี้
ล่าสุด วันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา “บิ๊กฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ได้เปิดภัตราคาร “โฮคิชเช่น” ถนนพระราม 3 เลี้ยงอาหารจีนต้อนรับนักกีฬา , นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ผู้จัดการทีม และผู้ฝึกสอนทุกคน โดยมีผู้ใหญ่ในวงการกีฬา ทั้ง นายศักดา รัตนสุบรรณ (คิวทอง) และอีกหลายท่านร่วมแสดงความยินดี นอกจากนี้ยังได้มี “ตู้”ดิเรก อมาตยกุล นักร้องชื่อดัง เจ้าของเพลง “สาวบางโพ” รวมทั้ง “มัม ลาโคนิก” นักร้องเสียงใส เจ้าของอัลบั้มเพลงดังมากมาย ร่วมขับกล่อม และสร้างความบันเทิงให้กับนักกีฬา อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 4 ชั่วโมงเต็ม ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น
ในการนี้ นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกยินดี และ ดีใจ กับผลงานของนักกีฬาสอยคิวชุดซีเกมส์ ถึงแม้ว่าจะเป็น 1 เหรียญทอง กับ 8 เหรียญทองแดง แต่เป็นความภาคภูมิใจของทุกคน และเชื่อว่า คนไทยทั้งประเทศที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดก็มีความสุขไม่แพ้กัน ส่วนคำถามที่ว่า “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ที่ปัจจุบันอายุ 52 ปีแล้ว ยังคงเปิดโอกาสให้ติดทีมชาติเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งหน้า ที่ประเทศกัมพูชา ต่อไปอีกหรือไม่ หรือจะดันขึ้นเป็นสต๊าฟฟ์โค้ช เกี่ยวกับเรื่องนี้ “บิ๊กฮง” ยืนยันว่า ด้วยประสบการณ์ ความสามารถ รวมถึงความทุ่มเท และ มีความรับผิดชอบขนาดนี้ คงต้องจัดให้ “ต๋อง” นักกีฬาที่มากด้วยประสบการณ์ ในฐานะพี่ใหญ่ตำแหน่งกัปตันทีมนำน้อง ไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปีหน้า ล่าเหรียญทองสนุกเกอร์ ที่ประเทศกัมพูชา ปีหน้าอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม ได้แสดงเจตนารมณ์เช่นกันว่า เมื่อผู้ใหญ่ให้โอกาส ก็คงต้องน้อมรับ และรับผิดชอบด้วยความภาคภูมิใจ และทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถกว่าเดิม สิ่งไหนที่ดีอยู่แล้วจะพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ส่วนไหนที่ยังเป็นจุดบอดก็ต้องเร่งแก้ไข เป้าหมายยังคงเหมือนเดิม ก็คือต้องคว้าเหรียญทองในประเภทสนุกเกอร์ 15 แดง ที่ประเทศกัมพูชา ปีหน้า ให้สำเร็จ
