22/11/2024

“ศ.สุชาติ​” ชี้​ ลาว​ ศรีลังกา​ ค่าเงินอ่อน​ลงมาก​ เพราะคนขาดความเชื่อมั่น​ เนื่องจากเป็นหนี้ต่างประเทศมากเกินไป​ แต่ญี่ปุ่น​ ตั้งใจอ่อนค่าเงิน​ เพื่อเพิ่มความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ​ เพิ่มการจ้างงาน​ และเพิ่มรายได้ประชาชน

“ศ.สุชาติ​” ชี้​ ลาว​ ศรีลังกา​ ค่าเงินอ่อน​ลงมาก​ เพราะคนขาดความเชื่อมั่น​ เนื่องจากเป็นหนี้ต่างประเทศมากเกินไป​ แต่ญี่ปุ่น​ ตั้งใจอ่อนค่าเงิน​ เพื่อเพิ่มความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ​ เพิ่มการจ้างงาน​ และเพิ่มรายได้ประชาชน

ศาสตราจารย์​ ดร.สุชาติ​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการกระท​รวงการคลัง​ และ​อดีตหัวหน้าพรรค​เพื่อ​ไทย​ กล่าว​เราได้เห็นค่าเงิน​ของลาว, ศรีลังกา, ปากีสถาน​ และค่าเงินของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงมาก​ แต่สาเหตุมาจากสิ่งตรงกันข้าม​

ในกรณี​ ประเทศลาว​ เงินกีบอ่อนค่าลง​ 53.6% เทียบดอลลาร์​ จาก​ 1 ปีที่ผ่านมา, ศรีลังกา​อ่อนค่าลง​ 82%, ปากีสถาน​อ่อนค่าลง​ 31% และยังมีแอฟริกาอีกหลายประเทศที่เงินอ่อนค่าลง​นั้น​ เป็นเพราะเป็นหนี้เงินตราต่างประเทศมากเกินไป​

แม้ว่าจะกู้เงินมาสร้างโครงสร้างบริการพื้นฐาน​ก็ตาม​ แต่รายได้​ (GDP​) เติบโตไม่ทัน​ มีเงินสำรองระหว่างประเทศเหลือน้อยไม่เพียงพอ​ในการสร้างความเชื่อมั่น​ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจึงถอนทุนหนี ทำให้ไม่มีเงินซื้อสินค้าต่างประเทศ​ที่จำเป็น ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมัน​ และสินค้า​โภคภัณฑ์​

การเป็นหนี้มากเกินไปและถูกถอนเงิน​ทุน​ เนื่องจากเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาล​ แม้คนในประเทศ​ก็ถอนเงินออกไปต่างประเทศ​ด้วย ทำให้เงินตราในประเทศลดค่าลงอย่างมาก​ จึงทำให้เกิดต้นทุนสูงขึ้นในสินค้านำเข้า​ แล้วส่งต่อเป็นทอดๆ​ ทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงมากในประเทศ​ และเกิดการขาดแคลนสินค้านำเข้า​ เช่น​ น้ำมัน

ประเทศเหล่านี้​ จึงต้องหดตัวทางการผลิต​ เพราะขาดแคลนสินค้านำเข้าขั้นกลาง​ ในขณะที่เกิดเงินเฟ้อสูงมาก​ ไปพร้อมๆ​ กัน

การแก้ไข คงต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนโลกก่อน​ ซึ่งอาจต้องหาองค์กร​ที่น่าเชื่อถือมาค้ำประเงินกู้​ ว่ามีจ่ายแน่​ อาจต้องเพิ่มภาษี​ และขายรัฐวิสาหกิจ​ ไปเจรจาผัดผ่อนหนี้ระยะสั้น​ เป็นหนี้ระยะยาว​ แล้วนำเสนอแผนฯ​ ที่นักลงทุน​มองว่าเป็นไปได้

สำหรับประเทศญี่ปุ่น​ ค่าเงินเยนเทียบ​ดอลลาร์​ใน​ 1 ปีที่ผ่านมา​ ก็ลดลงมากเช่นกัน​ โดยลดลง 22% แต่ไม่ใช่สาเหตุ​ขาดความเชื่อมั่นรัฐบาล​ หรือเป็นหนี้ต่างประเทศ​ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งใจให้เงินเยนลดค่าลง​ ด้วยการตั้งดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยโลกอย่างมาก​ คือ​ ลบ 0.1-0.2% โดยเพิ่มปริมาณเงินเยนในประเทศ​ ปล่อยให้เงินทุนต่างประเทศไหลออก​ เพื่อให้ค่าเงินเยนอ่อน​ ทำให้ส่งออกได้มากขึ้น​ ไปเพิ่ม​ GDP, เพื่อการจ้างงาน​ และเพิ่มรายได้ประชาชน​ พร้อมกันนี้​ ก็ปล่อยให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น​ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการบริโภค​และการลงทุนภายประเทศ

เหตุที่เงินลดค่าในประเทศญี่ปุ่น​ จึงตรงข้ามกับประเทศอื่นๆ​ ที่กล่าวมา​ รัฐบาลไทยจึงต้องระวังในการรักษาความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ​ อย่ากู้เงินมาทำเรื่องไม่มีสาระ​ โดยเฉพาะอย่าไปกู้เงินต่างประเทศมาแจก​ และยังต้องรักษาค่าเงินบาทให้แข่งขันได้ดี​ ที่จะส่งออกได้มากๆ​ ทำให้ระบบเศรษฐกิจ​และการจ้างงาน​เพิ่มในอัตราสูง​ขึ้น ศ.สุชาติ​กล่าว//

ข่าวที่น่าติดตาม