ลำปาง-ศบภ.มทบ.32 ตรวจความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินโคลนถล่ม

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 32 ตรวจความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินโคลนถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ โดยมี พันเอกถิรวัฒน์ ศรีสุวรรณ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 เป็นประธานในพิธีตรวจความพร้อมฯ กำลังพลจำนวน 1 กองร้อย 4 ชุดปฏิบัติการ ณ สนามพิทธยุทธยรรยง ตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

ตามที่กองทัพบกได้รับมอบนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติจากรัฐบาล ในการบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้หน่วยทหารในพื้นที่จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในทันทีโดยเร่งด่วนตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น ซึ่งในทุกปีที่ผ่านมาเมื่อเข้าสู่ห้วงฤดูฝนในพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน มักจะมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดลำปาง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 32 จึงได้จัดเตรียมความพร้อมของกำลังพล ยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

โดยการตรวจสภาพความพร้อมของหน่วยบรรเทาสาธารณภัยในวันนี้ มีจำนวน 2 กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย โดยได้จัดกำลังจาก กองร้อยมณฑลทหารบกที่ 32, โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี, ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหารมณฑลทหารบกที่ 32, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17, กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 และกองร้อยทหารช่างที่ 4 กองพันทหารช่างที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 ร่วมแสดงถึงความพร้อมในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง และเพื่อตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการต่อการปฏิบัติในการป้องกันบรรเทาฟื้นฟูสถานะภัยและอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากเกิดขึ้น จะลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด

เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 กล่าวให้โอวาทและแนวทางในการปฏิบัติการแก่กำลังพล โดยระบุว่า “ขอบคุณทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยของจังหวัดลำปาง ซึ่งการตรวจเตรียมความพร้อมเป็นการปฏิบัติตามนโยบายของหน่วยเหนือ ที่ต้องการให้ส่วนราชการทุกภาคส่วนได้เตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของหน่วย พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์ และให้กำลังพลทุกนายได้ยึดถือปฏิบัติตามแนวทาง ดังนี้

ประการแรก การดำรงความเป็นหน่วย ซึ่งข้อดีคือ กำลังพลในหน่วยในระดับต่าง ๆ จะได้รับทราบ และรับรู้ในภารกิจการปฏิบัติของหน่วยได้อย่างถูกต้อง ไม่สับสน และมีการปฏิบัติในลักษณะเป็นทีม ซึ่งก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่จะเกิดขึ้น

ประการที่สอง เรื่องของการรู้หน้าที่ ในตำแหน่งที่ตนเองได้รับมอบหมายและทำให้ดีที่สุด

ประการที่สาม ให้ตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเอง โดยให้ความช่วยเหลือเต็มขีดความสามารถและปลอดภัย

ประการที่สี่ ต้องติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และมีความพร้อมที่จะออกปฏิบัติภารกิจ ช่วยเหลือประชาชนทันที

ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 32 ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดเตรียมกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์

ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน