กาฬสินธุ์ สองพ่อลูกแจ้งจับลุงควงขวานบุกบ้านจามไม่ยั้งเจ็บสาหัสเชื่อเหตุชิงมรดก
สองพ่อลูกชาวตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งจับลุงหัวร้อนวัย 62 ปี หลังใช้ขวานจามเย็บกว่า 50 เข็ม เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากแย่งชิงมรดกที่ดิน 2 ไร่ และเงินฌาปนกิจบิดา 200,000 บาท ระบุแต่ผ่านมา 6 วันคดีไม่คืบ ล่าสุดยืนหนังสือและขอความช่วยเหลือจากผกก.สภ.สามชัยเร่งจับกุมตัวและดำเนินคดี เพราะอยู่อย่างหวาดผวา และเกรงว่าจะบุกมาก่อเหตุซ้ำ ด้านพนักงานสอบสวนให้ความมั่นใจ ภายในสัปดาห์หน้าเรียกตัวมาสอบสวนแน่นอน
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่ สภ.สามชัย อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ ได้นำนายบุญเพ็ง ยาระวัง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 บ้านหนองกุงกลาง หมู่ 8 ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ และนางยุวรรณดา คลังกลาง อายุ 35 ปีลูกสาว พร้อมญาติ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.สามชัย เพื่อให้เร่งรัดและดำเนินคดีกับนายไพรจิตร หาญสิทธิ์ อายุ 62 ปี พี่ชายภรรยาและมีศักดิ์เป็นลุงนายบุญเพ็ง หลังก่อใช้ขวานทำร้ายร่างกายนายบุญเพ็งและนางยุวรรณดา ลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยนายบุญเพ็งและนางยุวรรณดา อ้างสาเหตุเกิดจากชิงมรดกที่ดิน 2 ไร่ และเงินฌาปนกิจสงเคราะห์บิดา จำนวน 200,000 บาท
นายบุญเพ็ง ยาระวัง อายุ 59 ปี กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 13.10 น.ของวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนอยู่ภายในบ้าน ก็ได้ยินเสียงนางยุวรรณดาลูกสาว หวีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด และตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ พบนายไพรจิตร ซึ่งเป็นพี่ชายภรรยาของตน กำลังใช้ขวานซึ่งมีเชือกผูกติดกับข้อมือตัวเองเหมือนป้องกันขวานหลุดมือ โดยใช้ขวานทำร้ายร่างกายนางยุวรรณดา ตนจึงวิ่งเข้าไปห้ามและกอดรัด แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้ ในที่สุดตนก็พลาดท่าถูกนายไพรจิตรใช้ขวานฟันเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง และหัวไหล่ซ้าย 1 ครั้ง
จากนั้นต่างคนก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ก่อนที่นายไพรจิตรจะโกนบอกลูกชาย ซึ่งบ้านอยู่ติดกันมาช่วยแยกออกจากกัน ก่อนที่จะพานายไพรจิตรซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ลูกชายหนีไป ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่าไปหาที่สงบสติอารมณ์ ตนจึงเข้าไปดูอาการของนางยุวรรณดาลูกสาว ซึ่งอยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส ถูกคมขวานฟันเข้าที่ร่างกายเป็นแผลฉกรรจ์ 3 แผล คือที่หัวไหล่ซ้าย 1 แผล สันมือซ้าย 1 แผล และที่หน้าอก 1 แผล ก่อนที่จะเรียกญาติเข้ามาช่วยและนำส่งโรงพยาบาลสามชัย โดยทั้งตนและนางยุวรรณดาลูกสาว ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกหมอเย็บรักษาอาการรวมกันกว่า 50 เข็ม
ด้านนางยุวรรณดา คลังกลาง ลูกสาวนายบุญเพ็ง กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้น จู่ๆนายไพรจิตรซึ่งเป็นลุงก็ถือขวานบุกมาทำร้ายตน ขณะที่ตนเองก็ไม่ทันได้ระวังตัว จึงถูกจู่โจมฟันแบบไม่ยั้ง ซึ่งทีแรกนายไพรจิตรทำท่าจะเงื้อขวานฟันเข้าที่บริเวณลำคอหวังจะเอาให้ตาย ตนจึงเบี่ยงตัวหลบ คมขวานจึงฟันถูกตรงหัวไหล่ซ้าย นายไพรจิตรจะเงื้อขวานฟันซ้ำ ตนจึงยกมือซ้ายป้องกัน จึงถูกคมขวานฟันเข้าที่สันมือ 1 ครั้งจนเส้นเอ็นขาดและรู้สึกชาไม่ทั้งตัว จึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากพ่อที่อยู่ในบ้าน จังหวะนั้นนายไพรจิตรก็จะฟันซ้ำอีกจึงโยกตัวหลบ แต่ก็ถูกคมขวานฟันเข้าที่บริเวณหน้าอกอีก รวมถูกขวานฟัน 3 แผล
“สำหรับสาเหตุนั้น ตนเชื่อว่ามาจาก 2 ประเด็น คือประเด็นแรกนายไพรจิตรซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆของแม่หรือเป็นลุงของตน ต้องการส่วนแบ่งเงินฌาปนกิจของตา จำนวน 200,000 บาท ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว และประเด็นที่ 2 คือขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดก 2 ไร่ ซึ่งได้แบ่งสันปันส่วนกันไปแล้วแต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแนวเขต ทั้งนี้ เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2564 นายไพรจิตรเองก็เคยบุกเข้ามาตบตีตนในบ้าน ได้รับบาดเจ็บ ตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สามชัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตกลงยอมความ ให้นายไพรจิตรชดเชยความเสียหายข้อหาทำร้ายร่างกาย และเปรียบเทียบปรับรวม 3,500 บาท แต่นายไพรจิตรจ่ายให้ตนเพียง 500 บาท
ซึ่งตนก็ไม่ติดใจอะไร อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายไพรจิตรออกจะเป็นคนหัวร้อน ข่มขู่จะทำร้ายตนบ่อยครั้ง ก่อนที่จะถือขวานมาทำร้ายตนกับนายบุญเพ็งซึ่งเป็นน้องเขยในครั้งนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่ตนต้องการคือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายไพรจิตรถึงที่สุด เพราะนายไพรจิตรยังอยู่ในหมู่บ้าน และมีบ้านพักอาศัยอยู่ติดกัน ทุกวันนี้จึงอยู่กันอย่างหวาดผวา เกรงว่านายไพรจิตรจะบุกเข้ามาทำร้ายอีก จึงขอความช่วยเหลือจากนายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ พามายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากผู้กำกับการ สภ.สามชัย และเพื่อให้เร่งรัดคดีในครั้งนี้” นางยุวรรณดากล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท. บัญญัติ สีด้วง พนักงานสอบสวน สภ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจบาดแผลของผู้เสียหายทั้ง 2 คนจากแพทย์ก่อน ให้แพทย์ลงความเห็นก่อนว่ารักษากี่วัน ก็จะได้พิจารณาลงความเห็น และพิจารณาตามความเป็นจริง ว่าเข้าข่ายพยายามฆ่าหรือไม่ ทั้งนี้ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งภายใน 1 สัปดาห์จะเรียกตัวผู้ต้องหา มารับทราบข้อหาและดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง