“ชนินทร์” จวก “ประยุทธ์” ขยันสร้าง “หนี้จน” ล่าสุดจะกู้เงินค้ำหนี้ กฟผ.แสนล้านทั้งที่มีกำไรและไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หวั่นลูกหลานคนไทยจมกองหนี้
“ชนินทร์” จวก “ประยุทธ์” ขยันสร้าง “หนี้จน” ล่าสุดจะกู้เงินค้ำหนี้ กฟผ.แสนล้านทั้งที่มีกำไรและไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หวั่นลูกหลานคนไทยจมกองหนี้
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กู้เงินเพิ่ม 85,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันเงินกู้ทั้งก้อน เพื่อตอบสนองนโยบายการบริหารภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ของรัฐบาลว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งบริหารประเทศด้วยการกู้เงินมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพียงเท่านั้นหรือ หากมีการอนุมัติการกู้เงินในครั้งนี้จริง จะนับเป็นการอนุมัติกรอบวงเงินกู้ของ กฟผ.ในปีนี้รวมสูงถึง 112,000 ล้านบาท
เนื่องจากได้มีการอนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว 25,000 ล้านบาทในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ในอดีตรัฐบาลต่างๆที่มีศักยภาพ จะใช้กลไกการกู้เงินนอกงบประมาณมาเพื่อการลงทุนขยายเศรษฐกิจ สร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับประชาชนเท่านั้น เรียกว่า “หนี้รวย” แต่ที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นรัฐบาลที่ถนัดกู้มาแจก ขยันสร้างแต่ “หนี้จน” เพื่อมาชดเชยความล้มเหลวในการบริหารงานของตนเองมากกว่า จึงขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาลได้ตอบกับประชาชนว่า การอนุมัติการกู้ให้ กฟผ.ในครั้งนี้ มีความจำเป็นเร่งด่วนในตอนนี้จริงหรือไม่ และต้องกู้ไปเพื่อเหตุใดทั้งที่ยังไม่มีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในตอนนี้ ใครจะได้ประโยชน์จากการกู้นี้ หรือเป็นเพียงพฤติการณ์ที่ทำตามความเคยชินไปแล้ว
นายชนินทร์กล่าวว่า หากสืบค้นงบการเงินล่าสุดของ กฟผ.ที่มีการเปิดเผยโดยทั่วไปแล้วจะเห็นว่า ในรอบสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 กฟผ.ยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด อยู่ในรายการทรัพย์สินกว่า 50,000 ล้านบาท การรีบเร่งอนุมัติกรอบการกู้กว่าแสนล้านบาท โดยใช้เหตุผลเรื่องการขาดสภาพคล่อง จึงอาจถูกตั้งคำถามที่ความเหมาะสมหรือความจำเป็นเร่งด่วน อีกทั้งหากพิจารณาผลการดำเนินงานของ กฟผ.เองประจำไตรมาสที่ 1/2565 จะพบว่า ในช่วงที่ประชาชนทุกข์ยากกับปัญหาค่าครองชีพสูง กฟผ.เองกลับมีกำไรสูงถึงเกือบ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอีกกว่าเท่าตัว ยิ่งอดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่ กฟผ.ควรทำอย่างเร่งด่วนไม่น่าใช่การกู้ แต่เป็นลดกำไรเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาค่าครองชีพประชาชนมากกว่าหรือไม่
“การแก้ปัญหาพลังงานในเรื่องต่างๆมีหลายองค์ประกอบ หลายแง่มุม หากพลเอกประยุทธ์คิดจะเป็นผู้นำประเทศที่ดี ต้องลงจากหอคอยงาช้างมาคลุกคลีปัญหาและใช้ความสามารถในการสกัดหาทางออกที่สร้างสรรค์ หากท่านทำได้แค่สั่งแบบไม่เข้าใจ แล้วรออนุมัติเงินกู้ให้ทุกหน่วยงานที่ร้องขอ ขอให้ท่านปล่อยวาง แล้วให้คนอื่นขึ้นมาบริหารแทนดีกว่า ก่อนที่ลูกหลานคนไทยต้องเกิดมาจมทุกข์อยู่บนกองหนี้ ” นายชนินทร์กล่าว