กาฬสินธุ์ ฝนทิ้งช่วงไม่กระทบเขื่อนลำปาวส่งน้ำช่วยพื้นที่เกษตรต่อเนื่อง
จังหวัดกาฬสินธุ์เข้าสู่กลางฤดูฝน แต่ฝนยังไม่ตกลงมาต่อเนื่อง น้ำยังไม่ไหลเข้าสู่เขื่อนลำปาวเต็มที่ โดยมีปริมาณน้ำเก็บกักเพียง 871 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44% จากความจุอ่าง 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ระบุฝนทิ้งช่วงไม่ส่งผลกระทบ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีและเพียงพอ พร้อมส่งน้ำช่วยพื้นที่เกษตรต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากการติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงกลางฤดูฝน ตามอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ในภาพรวม โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว แหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่พบว่า ปริมาณน้ำยังไหลเข้าสู่อ่างไม่เต็มที่นัก ถึงแม้จะเข้าสู่กลางฤดูฝนแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นผลมาจากฝนตามฤดูกาลที่ขาดช่วง ไม่ตกลงมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายนายณรงค์ศักดิ์ ปิณฑดิษฐ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เข้าติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว หลังจากทางเขื่อนได้เริ่มส่งน้ำลงสู่ลำน้ำปาว เพื่อการอุปโภค บริโภค และทุกกิจกรรมการใช้น้ำตามปกติตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยนายณรงค์ศักดิ์ ปิณฑดิษฐ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า ถึงแม้ฤดูฝนปีนี้จะมีฝนตกลงมา แต่ปริมาณฝนทางหัวเขื่อนยังน้อย และตกไม่ต่อเนื่อง น้ำจึงไหลเข้าอ่างน้อย โดยปัจจุบัน ปริมาณน้ำเขื่อนลำปาว อยู่ที่ระดับ 871 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44% จากความจุอ่าง 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำวันละ 3.02 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการเกษตรและเพื่อการอุปโภค บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นายณรงศักดิ์กล่าวอีกหว่า ถึงแม้ปริมาณฝนฤดูฝนปีนี้จะตกลงมาน้อย และมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำน้อย แต่หากเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยในห้วงเดียวกันกับปี 2564 ถือว่าปีนี้อยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยปี 2565 ปริมาณน้ำ 715 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 36% ปี 2565 มีปริมาณน้ำ 871 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44% ยืนยันฝนทิ้งช่วงไม่ส่งผลกระทบ มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน และเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ให้มีการใช้น้ำอย่างประหยัด รู้จักแบ่งปัน เพื่อให้เกิดประโยชน์และคุณค่ามากที่สุด
***เสียง***นายณรงค์ศักดิ์ ปิณฑดิษฐ