เพชรบูรณ์ รองผู้ว่าฯมอบบ้านกาชาดรวมน้ำใจชาวเพชรบูรณ์ พร้อมลงมือปลูกต้นขนุนให้ กับเจ้าของบ้านด้วย

ที่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 8 ตำบลวังศาล อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธี มอบบ้านกาชาดรวมน้ำใจชาวเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายสุเทพ เบียร์ดี นายอำเภอวังโป่ง และหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอวังโป่ง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลวังศาล ร่วมพิธีมอบ

โดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดทำโครงการบ้านกาชาดรวมน้ำใจชาวเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยให้อำเภอวังโป่งพิจารณาคัดเลือกผู้ที่สมควรจะได้รับความช่วยเหลือตามโครงการบ้านกาชาดรวมน้ำใจชาวเพชรบูรณ์ จำนวน 1 ราย ในวงเงินหลังละ 100,000 บาท โดยพิจารณาจากประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ หรือผู้ยากจน อำเภอวังโป่งได้พิจารณาคัดเลือกครัวเรือนผู้ประสบอัคคีภัย ครอบครัวของ นางสาวพเยาว์ ภูมิชาติ อายุ 58ปี และได้รับความเมตตาจาก มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์

มอบสิ่งของพระราชทาน และพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิชีวิตไม่สิ้นหวัง ได้มอบเงินบริจาคซื้อที่ดิน จำนวน 1 งาน คิดเป็นเงิน 70,000 บาท รวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบลวังศาลได้มอบเงินสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างบ้าน เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท เพื่อช่วยเหลือในอุปกรณ์ก่อสร้าง และนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อสนับสนุนเป็นค่าแรงงานอุปกรณ์เครื่องใช้ เครื่องครัว และอื่นๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีพ

ซึ่งทางอำเภอวังโป่งและองค์การบริหารส่วนตำบลวังศาล ได้ดำเนินการก่อสร้างบ้านให้กับนางสาวพเยาว์ ภูมิชาติ บ้านเลขที่ 29/1 ตำบลวังศาล อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ดำเนินการจัดพิธีส่งมอบบ้านให้กับนางสาวพเยาว์ ภูมิชาติ ผู้ได้รับคัดเลือกตามโครงการบ้านกาชาดรวมน้ำใจชาวเพชรบูรณ์ สร้างความดีใจและปลาบปลื้มใจแก่ผู้ได้รับมอบ เป็นอย่างยิ่ง

พร้อมกันนี้ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังได้เป็นผู้ปลูกต้นขนุน ภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ตามความเชื่อที่ว่า จะช่วยเกื้อหนุน จุนเจือครอบครัว ให้มีคนคอยอุดหนุน เกื้อหนุน พร้อมทั้งกล่าวติดตลกว่า ให้เจ้าของบ้าน ช่วยดูแลรดน้ำ ขนุนต้นนี้ให้เติบใหญ่ หากออกลูกแรกเมื่อใด ให้รีบแจ้งท่านนายอำเภอวังโป่ง หรือหน่วยงานในพื้นที่ทันที เพื่อให้เตรียมประสานมาหาตนเอง ซึ่งหากถึงช่วงนั้น ตนอาจจะย้ายไปอยู่จังหวัดใด จังหวัดหนึ่งก็ตาม ก็ให้ส่งขนุนลูกแรก จากต้นที่ตนเองปลูกกับมือนี้ ไปให้ตนทานด้วย โดยตนเองนั้น จะตั้งหน้าตั้งตา เฝ้ารอทานขนุนต้นนี้จนกว่าจะออกลูกเลยทีเดียว