รมว.สุชาติ ส่ง เลขาสุเทพ ร่วมเปิดงานให้บริการรถไฟฟ้าสาย 8 เพิ่มการจ้างงาน สร้างรายได้สูงถึง 30,000 บาทต่อเดือน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ภายใต้สโลแกน “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เปิดโอกาส ป.ตรี เข้าทำงานสู่ภาคบริการรับรายได้สูงถึง 30,000 บาทต่อเดือน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธ์ (มหาชน) จำกัด กล่าวต้อนรับ ณ อู่รถโดยสารสาย 8 เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการจ้างงาน เพื่อให้คนไทยมีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลดังกล่าวในการที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่กำลังแรงงานและให้บริการจัดหางานแบบครบวงจร และในวันนี้ได้มอบหมายให้ผมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบริการจัดหางานและพัฒนาทักษะการให้บริการด้านขนส่งสาธารณะกับบริษัท ไทย สมายล์บัส จำกัด บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ร่วมกับบริษัทฯ จัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการขนส่งแล้วจำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร มาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้า และหลักสูตร มาตรฐานการปฏิบัติงานของพนักงานต้อนรับรถโดยสารไฟฟ้า ซึ่งในหลักสูตรการฝึกนั้น พนักงานขับรถโดยสารไฟฟ้าจะได้เรียนรู้การใช้งานเกี่ยวกับอุปกรณ์และระบบควบคุมของรถโดยสารระบบไฟฟ้า กฎ ระเบียบ มารยาท บุคลิกภาพ โครงสร้างอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกของรถโดยสารไฟฟ้า รวมถึงมาตรการการปฏิบัติกรณีฉุกเฉินได้ส่วนตำแหน่งพนักงานต้อนรับรถโดยสารไฟฟ้า
จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ เทคนิคการให้บริการด้วยใจ การคิดเงิน ทักษะเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ E Payment รวมถึงการดูแลความเรียบร้อยภายในรถขณะเดินทาง เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทได้นำหลักสูตรที่จัดทำร่วมกันไปพัฒนาบุคลากรของตนเองแล้วกว่า 200 คน และสำหรับวันนี้ บริษัทได้เปิดให้บริการขนส่งรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 เขตบึงกุ่ม และกำลังจะเปิดให้บริการอีกหลายสาย จึงมีความต้องการแรงงานเข้าทำงานทั้งตำแหน่งพนักงานขับรถและพนักงานต้อนรับบนรถโดยสารอีกหลายอัตรา มีเงินเดือนสูงถึง 30,000 บาท
“เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่การเปิดตัวให้บริการของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน ลดปัญหาการว่างงานให้แก่แรงงาน รวมถึงนักศึกษาจบใหม่ ให้ได้รับโอกาสการพัฒนาทักษะที่จำเป็นและมีความพร้อมเข้าสู่การทำงาน อีกทั้งกลุ่มแรงงานที่อยู่ในระบบได้รับการพัฒนาทักษะ มีความรู้ความสามารถที่สูงขึ้นและมีรายได้ที่มั่นคง ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น” นายสุเทพ กล่าวท้ายสุด ทางด้านนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา จำกัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด กล่าวว่า
ด้วยในปัจจุบันโลกกำลังร้อนขึ้น จากการเดินทางด้วยรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และฝุ่นควันมากมาย อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิด PM2.5 บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด จึงได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า หรือ EV Bus มาใช้ทดแทนรถโดยสารแบบเดิมที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เราได้เล็งเห็นถึงโอกาส ในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ รถโดยสารสาธารณะ อันจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ ได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการ นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมพร้อมที่จะเชื่อมต่อการเดินทาง “รถ-เรือ-ราง” แบบครบวงจร
ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมพนักงานขับรถ และ ยังได้เปลี่ยนให้เรียก (กัปตันเมล์ ) และพนักงานต้อนรับบนรถโดยสาร ( แอร์โฮสเมล์) ให้มีความรู้ ความชำนาญในเส้นทาง และมีจิตวิญญาณของการให้บริการและคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ด้วยใจอันเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทฯ “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่า ไทยสมายล์บัส จะเป็นผู้นำในการพลิกโฉมรถโดยสาร ในระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนำทุกท่านให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น