พิษณุโลก ม.นเรศวร เปิดเวทีประชุมนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีนและเมาะลำไย ครั้งที่ 5 มุ่งส่งเสริมด้านการแข่งขันและความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
พิษณุโลก ม.นเรศวร เปิดเวทีประชุมนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีนและเมาะลำไย ครั้งที่ 5 มุ่งส่งเสริมด้านการแข่งขันและความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิด การประชุมระดับนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีนและเมาะลำไย ครั้งที่ 5 (The 5th LIMEC Academic International Conference) เพื่อถ่ายทอดและขยายผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน บนระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน และเมาะลำไย สู่สถาบันการศึกษา และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นเวทีให้ให้นักเรียน นักวิจัย และคณาจารย์ ได้นำเสนอผลงานวิชาการ และแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้ที่เกี่ยวข้องกับระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน และเมาะลำไย เพื่อร่วมมือกันพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจฯ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ในการส่งเสริมด้านการสร้างความสามารถ ในการแข่งขันและส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
สำหรับในปีนี้ การประชุมจัดขึ้นในหัวข้อ “เทคโนโลยีดิจิตอลด้านโลจิสติกส์สำหรับฐานชีวิตใหม่” (Logistics for New Normal with Digital Technology) ซึ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตและการดําเนินธุรกิจของเราหลังจากการเกิดขึ้นของ COVID-19 ที่เร่งการพัฒนา และการนําวิธีการทํางานใหม่ๆ มาใช้ เช่น การทํางานจากที่บ้าน บริการจัดส่งอาหารออนไลน์ ธนาคารดิจิทัล และการเว้นระยะห่างทางสังคม และกิจกรรมอื่นๆ แบบไม่ต้องสัมผัส ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้กลายเป็นหนึ่งในโซลูชั่นที่สําคัญในการเชื่อมต่อเรา และเพื่อรักษาธุรกิจในหลายภาคส่วน ตั้งแต่การเงินไปจนถึงบริการภาครัฐ สุขภาพ และการศึกษา ตลอดจนเทคโนโลยีดิจิทัลด้านโลจิสติกส์และปัญญาประดิษฐ์พร้อมนี้ภายในงานจัดให้มีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อที่น่าสนใจ
อาทิ หัวข้อ “มุมมองต่อการนาดิจิทัลทรานฟอเมชั่นมาใช้ในการสร้างการไหลของอุปสงค์และอุปทานในการข้ามแดน” หัวข้อ “Building Supply Chain Resilience in the post-pandemic World-The Role of Digital Technologies” และการเสวนาในหัวข้อ “Digital Technology for the New Normal in Business” เป็นต้น ณ ห้องประชุม 210 อาคารเอกาทศรถ มหาวิทยาลัยนเรศวร และในรูปแบบออนไลน์
ด้าน ผศ.ดร.วัชรพล สุขโหตุ คณบดีคณะโลจิสติกส์และดิจิทัลซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า คณะโลจิสติกส์และดิจิทัลซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยนเรศวร มีส่วนร่วมในการดำเนินการก่อตั้งและประสานความร่วมมือบนระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน และเมาะลำไย (Luangprabang-Indochina-Mawlamyine Economic Corridor; LIMEC) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง 1 ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ และตาก แขวงหลวงพระบาง/แขวงไซยะบูลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และรัฐกะเหรี่ยง/รัฐมอญ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งได้มีการจัดประชุมนานาชาติฯ ประจำปี ร่วมกันมาแล้ว 4 ครั้ง ร่วมถึงการจัดกิจกรรม Start up LIMAC 2 ครั้ง
โดยคณะได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและจำเป็นของการถ่ายทอด ขยายการศึกษา สร้างความร่วมมือ และแบ่งปันความรู้และงานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ บนระเบียงเศรษฐกิจฯ ซึ่ง ในปี พ.ศ. 2566 มุ่งวางแผนที่จะขยายผลและต่อยอดงาน LIMAC ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ให้เป็นวารสารวิชาการควบกับงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติในชื่อ “1st International Journal & Conference of Logistics and Digital Supply Chain” เพื่อทำให้งานมีมาตรฐานมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงเพื่อให้คณะได้มีวารสารนานาชาติที่ใช้ในการถ่ายทอดและขยายผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน รวมทั้งเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน บนระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน และเมาะลำไย เป็นของตนเองเปิดโอกาศในการเผยแพร่งานวิจัยของบุคลากรและนักศึกษาต่อไป
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก