ผู้บัญชาการทหารเรือ ส่งสารเชิดชูเกียรติอดีตนักดำเรือดำน้ำ ครบรอบ 85 ปี “วันเรือดำน้ำ” ประจำปี 2565
ผู้บัญชาการทหารเรือ ส่งสารเชิดชูเกียรติอดีตนักดำเรือดำน้ำ ครบรอบ 85 ปี “วันเรือดำน้ำ” ประจำปี 2565
ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการ กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบหมายให้ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนอ่านสารและจัดกิจกรรมเนื่องใน “วันเรือดำน้ำ” ครบรอบปีที่ 85 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ให้แก่อดีตทหารเรือ ที่เป็นนักดำเรือดำน้ำ และรำลึกถึงอดีตนักดำเรือดำน้ำผู้ล่วงลับไปแล้ว ตลอดจนรำลึกประวัติศาสตร์ การมีเรือดำน้ำของกองทัพเรือ โดยมี พลเรือตรีพงษ์ศักดิ์ สมบุญ ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ นำกำลังพลและญาติของอดีตนักดำเรือดำน้ำ ร่วมให้การต้อนรับ
โดยสารจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ในวาระที่วันเรือดำน้ำ เวียนมาบรรจบครบรอบ ปีที่ 85 ในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2565 นี้ ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และจอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ได้ทรงวางรากฐานกิจการเรือดำน้ำ ให้แก่กองทัพเรือและพร้อมใจกันร่วมเชิดชูเกียรติประวัติของกำลังพลประจำเรือดำน้ำ แห่งราชนาวีไทยในอดีต ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยกล้าหาญ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาสละเลือดเนื้อและชีวิตให้กับกองทัพเรือ และอธิปไตยของประเทศชาติ
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผลประโยชน์ทางทะเล นับเป็นหลายล้านล้านบาทต่อปี และนับวันจะทวีมูลค่ามากขึ้นในอนาคต ดังนั้นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยการเสริมสร้างกำลังทางเรือจึงเป็นความจำเป็น เพื่อให้มีกำลังทางเรือที่สมดุลทัดเทียมกันในภูมิภาค หรือเพื่อให้มีศักยภาพในการรบที่ใกล้เคียงกันหรือเหนือกว่า ทั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ได้เสริมสร้างกำลังทางเรือเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกำลังเรือดำน้ำ ทำให้เมื่อเปรียบเทียบขีดความสามารถของกำลังทางเรือแล้ว กองทัพเรือ มีความเสียเปรียบอย่างยิ่ง จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการ จึงจะรักษาสมดุลย์กำลังทางเรือ ในการรักษาความมั่นคงทางทะเลในปัจจุบันได้
โดยเรือดำน้ำ ถือเป็นเรือรบที่มีศักยภาพสูงที่สุดในบรรดาเรือรบด้วยกัน เป็นอาวุธที่มองไม่เห็น ตรวจจับยาก ปฏิบัติการได้ไกล และมีอำนาจการทำลายรุนแรง สามารถสร้างความยำเกรงให้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังทางเรือเหนือกว่าอย่างมากได้ เรือดำน้ำจึงจะเข้ามาเสริมเติมเต็ม ให้กองทัพเรือ มีขีดความสามารถครบทุกมิติ คือ ผิวน้ำ ใต้น้ำ และ ในอากาศ ซึ่งจะเป็นหลักประกันในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติอย่างมั่นคงสืบไป
และยังได้พบปะพูดคุย แสดงความขอบคุณต่อญาติของอดีตนักดำเรือดำน้ำ ที่ได้มาร่วมกิจกรรมในวันเรือดำน้ำ ครบรอบ ปีที่ 85 ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645