เพชรบูรณ์- สืบสานประเพณีโบราณ พร้อมฟังยายวัย65ปี ร้องสดกลอนรำบุญข้าวสาก
เพชรบูรณ์- สืบสานประเพณีโบราณ พร้อมฟังยายวัย65ปี ร้องสดกลอนรำบุญข้าวสาก
ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่วัดบ้านวังไทรทองวนาราม หมู่ 7 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ชาวบ้านจำนวนมาก แห่ทำบุญข้าวสาก ซึ่งเป็นประเพณีการทำบุญที่จัดขึ้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรกหรือเปรต นิยมทำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นประจำทุกปี เป็นประเพณีของชาวอีสาน
โดยชาวบ้าน ต่างจัดเตรียมอาหารชนิดต่าง ๆ มีทั้ง ข้าว เนื้อ ปลา ข้าวเม่า ข้าวพอง ข้าวตอก ขนม และอาหารคาวหวาน ตลอดจนผลไม้ต่าง ๆตามฤดูกาล ห่อใส่ใบตองเป็นพวง นำมาที่วัดให้พระทำพิธีอุทิศให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยจะทำสากหรือสลาก มีคำอุทิศส่วนกุศลใส่กระดาษบันทึกชื่อ ผู้มีจิตศรัทธาบริจาค และความประสงค์ว่าจะบริจาคทานให้แก่ผู้ใด โดยบอกชื่อผู้ที่จะมารับส่วนกุศล
เมื่อเสร็จพิธีถวายข้าวสากแล้ว ชาวบ้านที่ไปร่วมพิธี ก็จะนำเอาห่อข้าวสากไปวางไว้ตามที่ต่าง ๆหรือธาตุที่เก็บกระดูกของพ่อแม่ญาติพี่น้อง ผู้ล่วงลับไปแล้ว ในบริเวณวัด พร้อมจุดเทียนและบอกกล่าวให้ญาติ หรือเปรต เจ้ากรรมนายเวร ผู้ล่วงลับไปแล้ว มารับเอาอาหารต่าง ๆ ที่วางไว้ และขอให้มารับส่วนกุศลที่ทำบุญอุทิศไปให้ด้วย นอกจากนี้ สำหรับเกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ก็จะนำข้าวสากไปเลี้ยง เจ้าที่เจ้าทาง ที่ไร่ ที่นา ที่สวนของตน เพื่อให้เจ้าที่รักษาไร่นาและให้ข้าวกล้าอุดมสมบูรณ์ เป็นเสร็จพิธีทำบุญข้าวสาก
และในขณะเดียวกัน ภายในงานประเพณีบุญข้าวสากวันนี้ พบ คุณยายฮวด หรือ นางฮวด จันทร์หอม อายุ 65 ปี ได้เป็นตัวแทนชุมชน ขับกล่อมเสียงร้อง “กลอนรำบุญข้าวสาก” เพื่อเป็นการระลึกถึงบรรพบุรุษ พ่อแม่พี่น้องและผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ได้รับรู้และมารอรับผลบุญในครั้งนี้ ซึ่งระหว่างที่ขับกล่อมกลอนรำบุญข้าวสาก ซึ่งมีท่วงทำนองและเนื้อหาที่กินใจอยู่นั้น พบว่าบางคน ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เนื่องจากต่างนึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ อีกทั้ง ชาวบ้านส่วนใหญ่ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “กลอนรำบุญข้าวสาก” ทุกวันนี้ เริ่มหาฟังยาก โดยเฉพาะการขับร้องแบบสดๆเช่นนี้
สอบถาม นางฮวด จันทร์หอม อายุ65ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่7 บ้านวังไทรทอง ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เล่าว่า วันนี้เป็นงานบุญข้าวสาก ที่พ่อแม่ญาติพี่น้อง ที่ล้มหายตายจาก ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งรอคอยวันนี้ เป็นวันบุญข้าวสาก เป็นบุญใหญ่ของเมืองผี ต่างพากันมารับบุญ ทำประจำทุกปี โดยมีอาหาร ที่เป็นเครื่องกิน ผลไม้ทุกอย่าง แล้วเรียกนามผู้ล่วงลับให้มากินผลบุญ
เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว