เจ้าหน้าที่สรรพสามิตสนธิกำลังกับตำรวจสอบสวนกลางและศุลกากรบุกทลายโกดังเก็บบุหรี่เถื่อนรายใหญ่

เจ้าหน้าที่สรรพสามิตสนธิกำลังกับตำรวจสอบสวนกลางและศุลกากรบุกทลายโกดังเก็บบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ชายแดน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ยึดบุหรี่เถื่อนกว่า 3 แสน 5 หมื่นซอง คิดเป็นค่าปรับกว่า 331 ล้านบาทเร่งขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้(18ก.ย.65) ที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าภายใต้การอำนวยการของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรสามิต นายวิวัฒน์ เขาสกุล ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรสามิต นายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 พล.ต.ท.จักรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายจีระนันท์ ใจห้าว สรรพสามิตพื้นที่นราธิวาส นายอติสันติ์ ภูวพิพัฒนวงศ์ นายด่านศุลกากรตากใบ นายจำแลง บัวสงค์ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชายด้านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต

นายสัมพันธ์ ศรีวิรัตน์ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่าง ผอ.ส่วนตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามสำนักงานสำนักงานสรรสามิตภาคที่ 9 นางสาวประอรรัตน์ รัตนพรสมปอง นักวิชาการศุลกากรชำนาญการพิเศษ และนายชัยวิทย์ ชัยวิรัตน์นุกูล นักวิชาการศุลกากรชำนาญการแถลงผลการจับกุมบุหรี่เถื่อนล๊อตใหญ่ ซึ่งเป็นบุหรี่ที่ยังไม่เสียภาษี จำนวน 351,500 ซอง รวม 7,030,000 มวล มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท คิดเป็นค่าปรับประมาณ 331 ล้านบาท และค่าภาษีประมาณ 22 ล้าน

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจสรรพสามิตภาคที่ 9 ร่วมกับชุดสายตรวจสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นราธิวาส ด่านศุลกากรตากใบ ชุดเคลื่อนที่เร็ว กสป.กรมศุลกากร และตำรวจสอบสวนกลาง ชุด สป.กรมศุลกากร ร่วมกันบุกทลายโกดังเก็บบุหรี่เถื่อนในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการบุกทลายโกดังเก็บบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ชายแดนไทยรายใหญ่อีกแห่งหนึ่งในรอบปีนี้
โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีการลักลอบขนบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางทะเลและนำมาเก็บไว้ในโกดังแห่งนี้เพื่อรอกระจายส่งจำหน่ายตามท้องตลาดโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

จึงสนธิกำลังบุกทลายและจับกุมได้ทั้งโกดัง และอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนบุหรี่เถื่อนล๊อตนี้เข้ามา
นายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรสามิตภาคที่ 9 เปิดเผยว่า การปฏิบัติการปราบปรามจับกุมบุหรี่เถื่อนที่มิได้เสียภาษีในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรการเชิงรุกของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรสามิต ที่ให้ป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฏหมายสรรพสามิตตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นกลุ่มกระบวนการใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงระดมกวาดล้างและจับกุมอย่างต่อเนื่อง