ขอนแก่น – “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม
นายกรัฐมนตรีลุยพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมือง โดยบางข่วงบางตอนได้มีการพูดคุยกับประชาชนที่มารอให้กำลังใจ บอกว่าให้ประชาชนรัก สามัคคี และเชื่อมั่นในรัฐบาล
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานขอนแก่น ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจติดตามแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.ขอนแก่น และ จ.อุบลราชธานี โดยนายกฯได้หยุดโบกมือทักทายประชาชนที่อยู่อาคารติดกับสนามบินด้วยอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งถือว่าเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นเมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวรายงานสถานการณ์ในพื้นที่การเกิดน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ว่า แบ่งเป็น 3 กรณีคือ น้ำเหนือ คือน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ 2 สาย มาบรรจบกันที่ลำน้ำชีเขตรอยต่อขอนแก่น มหาสารคาม ลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำเกินความจุของอ่างฯแล้ว น้ำนองคือน้ำค้างทุ่ง โดยเฉพาะฝนปีนี้มากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ประมาณ 39% ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจเมืองขอนแก่นบริเวณบึงหนองโคตรและชุมชน
นายไกรสร กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนน้ำที่หนุน จากจังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ดยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ซึ่งมีผลทำให้ขอนแก่นระบายน้ำได้ช้าลง โดยจังหวัดขอนแก่น ได้นำโครงการระบบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนจังหวัดขอนแก่น งบประมาณ 376 ล้านบาท เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 สิ้นสุด โครงการเดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งจะช่วยเสริมการระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่นว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้เป็นการมาตำหนิใคร แต่ต้องการมาช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และขอให้ทุกฝ่ายพยายามเยียวยาอย่างทั่วถึง ทั้งนี้แนวทางการแก้ปัญหามีแผนงานโครงการของทุกจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งหลายโครงการมุ่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2565 และบางโครงการมุ่งให้สำเร็จในปี 2566
พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ กล่าวย้ำว่า การระบายน้ำในพื้นที่และการพร่องน้ำต่างๆจะต้องบูรณาการไม่ให้เกิดผลกระทบกับ ประชาชน ซึ่งภาพรวมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่น้ำมาก บางพื้นที่น้ำน้อย ดังนั้นจะต้องมาพิจารณาหาแนวทาง เพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกันในเรื่องของการกักเก็บน้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ กล่าวอีกว่าถ้าหากยังมีฝนตกในปริมาณมากกว่าที่จะระบายน้ำได้ทัน ก็ยังจะมีปัญหาอยู่เช่นนี้ และไม่ใช่การแก้ตัว แต่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด หากอะไรที่สามารถป้องกันได้ก็ให้ดำเนินการไป เช่น การปกป้องโรงพยาบาล พื้นที่เศรษฐกิจ แต่หากเรื่องไหนทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการแก้ไข เพื่อให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล อาหาร น้ำสะอาดและพื้นที่พักพิงสำหรับการแก้ปัญหาต้องสรุปและแบ่งเป็นกลุ่มในการเยียวยาให้ทั่วถึง เช่นกลุ่มเกษตรกร ภาคธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ในฐานะนายกฯ และรัฐบาลได้สั่งการให้เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการให้เร็วที่สุดในทุกพื้นที่ รวมถึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาช่วยในเรื่องของอาหาร อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยชาติช่วยประชาชน และนั่นคือสิ่งที่จะรวมพลังคนไทยทั้งหมด และจะสามารถแก้ได้ทุกปัญหา มากบ้างน้อยบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง นั่นคือประเทศไทยหากไม่ทำเช่นนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้ ถือว่าไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง
จากนั้นเมื่อเวลา 10.26 น. พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ เดินทางออกจากท่าอากาศยานขอนแก่น ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้วยรถยนต์ทรานฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สีส้ม ทะเบียน 1 นข 4001 กรุงเทพมหานคร ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางไปที่จุดสถานีสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า บึงหนองโคตร เทศบาลตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น โดยจุดนี้เกิดน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นพื้นที่รอยต่อพื้นที่เศรษฐกิจเมืองขอนแก่นและมีหมู่บ้านจัดสรร บ้านเรือนประประชาชน ได้รับผลกระทบจำนวนมาก จากฝนที่ตกหนักจนน้ำจากบึงหนองโคตรระบายไม่ทันเอ่อนล้นเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนหลายพันหลังคาเรือน
ขณะที่นายชัชวาล ธีรภานุ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด ได้กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ รวมถึงสภาพปัญหาและข้อจำกัดในการระบายน้ำจากบึงหนองโคตรว่าได้เสนอแผนเพื่อเพิ่มช่องทางการระบายน้ำให้มากขึ้น จากเดิมที่มีเพียงช่องทางเดียวเพื่อป้องกันน้ำท่วมกรณีเกิดฝนตกหนัก ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเบื้องต้น ทางเทศบาลตำบลบ้านเป็ดได้ระดมเครื่องสูบน้ำจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 4 อบจ.ขอนแก่น และเครื่องสูบน้ำระยะไกลของศูนย์ ปภ.เขต 6 เร่งพร่องน้ำออกจากบึงหนองโคตรให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่อง จากนั้น มีประชาชนใกล้เคียงออกมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี โดยพลเอกประยุทธ์ ได้พูดคุยกับประชาชนว่าให้ประชาชนรัก สามัคคีกันเชื่อฟังคำแนะนำและการปฏิบัติ ที่สำคัญเชื่อมั่นในรัฐบาลแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่วัดเทพนิมิตวนาราม บ้านพรหมนิมิต หมู่ 4 ตำบลโคกสี อำเภอเมืองขอนแก่น ต่อไป
สำหรับบรรยากาศการรอต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่บริเวณโดยรอบบึงหนองโคตร จังหวัดขอนแก่น ได้มี จนท.ตำรวจนำกำลังจำนวนหลายร้อยนายทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตามเส้นทางเข้าออกทุกเส้นทางป้องกันม็อบ ขณะที่ อสม.นำดอกไม้มารอต้อนรับ ส่วนคนเสื้อแดงนำรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงพร้อมมวลชนจำนวนหลายคนมาโจมตีการทำงานของนายกฯ
บรรยากาศการเตรียมการรอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน พท.ที่จังหวัดขอนแก่น โดยจุดแรกที่นายกรัฐมนตรีจะลงตรวจเยี่ยมก็คือ ที่บริเวณโดยรอบบึงหนองโคตร บ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง ซึ่งเป็นบึงขนาดใหญ่ และเป็นแก้มลิง รอรับน้ำจากแหล่งต่างๆ ของเขต อ.เมือง ที่จะไหลมารวมกัน ปีนี้ฝนตกหนักจึงทำให้น้ำล้นอ่างมาท่วมถนนสายรอบบึง และทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านที่อยู่โดยรอบของบึงหนองโคตรมานานหลายวันแล้ว
โดยการรักษาความปลอดภัย ของ จนท.ตำรวจนั้น ได้วางกำลังหลายร้อยนายไว้ตามจุดต่าง ๆ ของถนนเส้นทางเข้าออกบึงหนองโคตร โดยมีบรรดา อสม.ตำบลบ้านเป็ด ถือดอกไม้มารอต้อนรับและให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พร้อมฝาก ผู้สื่อข่าวถามนายกรัฐมนตรีด้วยว่า เงินที่บอกว่าจะเพิ่มให้ อสม.เดือนละ 3,000 บาทนั้น เมื่อไหร่จะได้ ขอให้เห็นใจ อสม.ด้วย เพราะ อสม.คือด่านหน้าที่ทำงานให้กับทางราชการ
ขณะที่มวลชนคนเสื้อแดง จำนวนมากได้นำรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง มาประกาศโจมตีการทำงานของรัฐบาล พร้อมทั้งตะโกนว่านายกเถื่อน ไปตามถนนรอบบึง โดยเฉพาะปัญหากัญชา ปัญหายาบ้า ที่ทำลายสังคมในปัจจุบัน รัฐบาลไม่สามารถปราบได้ เพราะ จนท.ตำรวจทหารมาทำเสียเอง ซึ่ง จนท.ตำรวจได้ทำการนำแผลงกั้นมากั้น และจนท.ก็ได้นำโล่ และกระบอง มาป้องกันกันไม่ให้ม็อบเข้าไปบริเวณด้านในได้ โดยให้หยุดอยู่ที่บริเวณรอบนอกเท่านั้น.