“รัชชานนท์” สู้เต็มที่ก่อนคว้าที่ 2 เอเชีย สองล้อทางไกลทัวร์ เดอ ลังกาวี สเตจ 7
“รัชชานนท์ เยาวรัตน์” นักปั่นไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ สู้อย่างเต็มที่ ปั่นเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 2 ของเอเชียมาครอง ในศึกสองล้อทางไกล “ทัวร์ เดอ ลังกาวี” สเตจที่ 7 ส่วน “ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย” ได้ที่ 6 ของเอเชีย ขณะที่ “พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง” โชคไม่ดีรถจักรยานยางรั่วทำให้หลุดจากกลุ่มใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี ผู้ฝึกสอนจักรยานทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” ถึงผลการแข่งขันจักรยานประเภทถนนทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2022” ที่ประเทศมาเลเซีย ในระดับโปรซีรี่ส์ มีคะแนนสะสมมากกว่าระดับ UCI 2.1 เป็น 2 เท่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เป็นการชิงชัยในสเตจที่ 7 บนเกาะลังกาวี จากเดิมทางฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนดเส้นทางเอาไว้ว่าเป็นเส้นทางปั่นขึ้นเขาจากคูอาห์ ไปยังกูนุง รายา ระยะทาง 90.8 กม. แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่มเพราะฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันเป็นแบบเซอร์กิตบนเกาะ จำนวน 12 รอบ รวมระยะทาง 107.1 กม.
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า การแข่งขันในสเตจที่ 7 นี้ ช่วงสุดท้ายมีนักปั่นเกาะกลุ่มสปรินท์เข้าเส้นชัยจำนวน 64 คน ปรากฏว่า “ออม” นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์ นักปั่นอาชีพทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ สู้อย่างเต็มที่ ก่อนคว้าอันดับที่ 2 ของเอเชียมาครอง ด้วยเวลา 2.22.02 ชั่วโมง และเป็นอันดับที่ 24 จากนักปั่นทั้งหมด 104 คน ส่วนนักปั่นคนอื่น ๆ “วุฒิ” ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย ได้อันดับที่ 31 และเป็นอันดับที่ 6 ของเอเชีย, “เฟรม” ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ได้อันดับที่ 41, “ดอย” ร.ต.ท.นวุติ ลี้พงษ์อยู่ ได้อันดับที่ 45, “อเล็กซ์” นายอริยะ พูลสวัสดิ์ ได้อันดับที่ 60 เวลา 2.22.02 ชั่วโมงเท่ากัน ขณะที่ “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง โชคไม่ดีเพราะรถยางรั่ว ทำให้หลุดจากกลุ่มใหญ่ แล้วเข้าเส้นชัยอันดับที่ 78 เวลา 2.23.51 ชั่วโมง ด้านแชมป์สเตจที่ 7 เป็นของ สจอร์ด เบ็กซ์ นักปั่นเนเธอร์แลนด์ จากทีมอัลเปซิน-ดีคอนนิค เวลา 2.22.02 ชั่วโมง
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สำหรับประเภททีมเอเชีย ประจำสเตจที่ 7 ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ได้ที่ 2 ด้วยเวลา 7.06.06 ชั่วโมง ส่วนอันดับ 1 เป็นของทีมชาติฟิลิปปินส์ เวลา 7.05.35 ชั่วโมง เฉือนชนะทีมอาชีพของไทยไป 31 วินาที และอันดับ 3 ทีมมูลา จากอินโดนีเซีย เวลา 7.06.06 ชั่วโมง ขณะที่ผู้นำเวลารวมยังเป็นของ อีวาน รามิโร โซซา เครโว นักปั่นชาวโคลอมเบีย จากทีมมูวีสตาร์ของสเปน เวลารวม 23.28.05 ชั่วโมง ได้ครอง “เสื้อเหลือง” ต่อไป
“การแข่งขันสเตจที่ 8 ในวันที่ 18 ตุลาคม ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย ใช้เส้นทางเดิมแต่เพิ่มมาอีก 1 รอบ เป็น 13 รอบ รวมระยะทาง 115.9 กม. ซึ่งนักปั่นไทยต้องพยายามทำอันดับให้ดีที่สุด เนื่องจากแต่ละสเตจนักปั่นที่อยู่อันดับ 1-40 จะมีคะแนนสะสมยูซีไอให้ทุกคน เพื่อที่จะเพิ่มคะแนนให้กับประเทศไทยให้ได้มากที่สุด ในการสะสมคะแนนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ก็ต้องของแรงใจจากพี่น้องชาวไทยอีกครั้ง ช่วยส่งกำลังใจเชียร์ลูกหลานไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย” พลเอกเดชา กล่าว