“พิพัฒน์” หนุนจัดอีเวนต์ระดับโลก ตั้งเป้าปี 2566สร้างรายได้ 4 หมื่นล้าน
รมต.พิพัฒน์ เปิดบูธสปอร์ต ทัวริซึ่ม กกท. ภายในงานท่องเที่ยวเอเชีย ที่สิงคโปร์ หนุนจัดอีเวนต์ระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้ 4 หมื่นล้านปี 2566
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดบูธโปรโมตกิจกรรมการแข่งขันกีฬาเชิงท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส และค่ายมวยไทย ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในงานมหกรรมการแสดงสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวเอเชีย ITB Asia 2022 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท., นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมด้วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกีฬาหลากหลายชนิดกีฬา ที่แซนด์ส เอ็กซ์โป แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า การเข้าร่วมงานมหกรรมการแสดงสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวเอเชีย ของ กกท.ในครั้งนี้เป็นการเข้าร่วมแบบเต็มตัวครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่เรื่องสปอร์ต ทัวริซึ่ม โดยเฉพาะมวยไทยที่เป็นซอฟต์ เพาเวอร์ ของประเทศไทยไปแล้ว และเป็นที่รู้จักไปทั่ว 146 ประเทศทั่วโลกที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า) ซึ่ง กกท.มาออกบูธในครั้งนี้จะเป็นการนำไปสู่สปอร์ต ทั่วริซึ่ม สนับสนุนการนำกีฬาเชิงท่องเที่ยว โดยเฉพาะกีฬาอีเวนต์ระดับนานาชาติ ซึ่งแต่ละปีประเทศไทยมีหลายอีเวนต์
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงปลายปีนี้มี 2 อีเวนต์ใหญ่คือ การแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก ครั้งแรกที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ วันที่ 3-6 พฤศจิกายน และการแข่งขันวิ่งเทรล บายยูทีเอ็มบี ที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ วันที่ 8-11 ธันวาคมนี้ ส่วนปีหน้าเรามีอีเวนต์นานานาชาติมากมาย ทั้งกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ รวมทั้งรถจักยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี และเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าจะสร้างชื่อเสียง และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยโดยสปอร์ต ทัวริซึ่ม
“ในอดีตที่ผ่านมา กกท.ได้มีการเก็บตัวเลขรายได้เงินจากการจัดกีฬาอีเวนต์นานาชาติอยู่ที่ประมาณ 3-4 พันล้านบาทต่อปี แต่หลังจากที่เราได้มีการจัดเป็น สปอร์ต ทัวริซึ่ม ขึ้นมาแล้ว เฉพาะรายการเดียวในโมโตจีพีปีที่ผ่านมาสร้างมูลค่าถึง 4 พันล้านบาท เพราะฉะนั้นผมมีความมั่นใจว่าถ้าเราจัดเป็นกิจจะลักษณะ และประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ รายได้คงไม่น้อยกว่า 3-4 หมื่นล้านบาทในปี 2566 นี่คือเป้าหมายที่พวกเราจะต้องวิ่งเข้าไปสู่สิ่งใหม่ๆ เหล่านี้กับอีเวนต์กีฬาระดับโลกที่มาจากสปอร์ต ทัวริซึ่ม ซึ่งจะถือเป็นตัวกระเพื่อม ดึงดูดเรื่องการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประเทศ”
รมต.พิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้เราจะเก็บตัวเลขอย่างชัดเจนเรื่องสปอร์ต ทัวริซึ่ม ในการจัดอีเวนต์กีฬาที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ เพื่อไปสื่อสารกับทางรัฐบาล รวมทั้งสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพราะการจัดจะต้องไปดึงลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมา ซึ่งจะต้องอาศัยงบประมาณจากภาครัฐในการไปดึงมาจัดที่เมืองไทย อีกทั้งส่วนตัวเชื่อว่ารายได้จากสิ่งเหล่านี้คงไม่หยุดอยู่ที่ 3-4 หมื่นล้านบาท ในอนาคตมีความมั่นใจว่าถ้าเราดึงอีเวนต์ใหญ่ระดับโลกมาจัดต่อเนื่องได้ทุกเดือนจนติดตลาด เป้าหมายแสนล้านบาทไม่ใช่เรื่องยาก
ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ในงานครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ กกท.ได้ใช้พื้นที่ในการจัดงานแยกออกมาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งครั้งนี้เราให้ความสำคัญในการโปรโมตเรื่องสปอร์ต ทัวริซึ่ม และมวยไทย เราจึงตัดสินใจจัดบูธของเราเอง และมีกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งนำผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกีฬาต่างๆ และอีเวนต์ระดับโลกมาร่วมด้วย เพื่อส่งเสริมในการเพิ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ผลักดันนโยบายของท่านรัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่ต้องการจะเห็นสปอร์ต ทัวริซึ่ม เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนากีฬา และกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับงานมหกรรมการแสดงสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวเอเชีย ITB Asia 2022 ที่ประเทศสิงคโปร์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคมนี้ โดยชูจุดแข็งนโยบาย สปอร์ต ทัวริซึ่ม และสปอร์ตฮับ ของเอเชีย เพื่อดึงกลุ่มนักวิ่ง นักท่องเที่ยวที่ชอบกิจกรรมกีฬา และสันทนาการ นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยต่อไป