กาฬสินธุ์ มวลน้ำขยายวงเอ่อท่วมถนนกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ทะลักเข้าหลายชุมชน
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นจังหวัดกาฬสินธุ์จากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดยังขยายวงกว้างมวลน้ำไหลทะลักท่วมบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอกมลาไสย ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งอพยพและขนย้ายสิ่งของ และล่าสุดเอ่อเข้าท่วมถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ดระดับน้ำสูงกว่า 80 ซม.รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่แขวงทวงหลวงต้องติดป้ายเตือน และเปิดเส้นทางเลี่ยง ส่วนการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำล่าสุดคืบหน้าไปแล้วกว่า 50 %
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ นายชัยโรจน์ แก้วแกมแข รองผอ.ฝ่ายปฏิบัติการ แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายณัฐพล เพียรภายลุน ปลัดอาวุโสอำเภอกมลาไสย รักษาราชการแทนนายอำเภอกมลาไสย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ปภ.กาฬสินธุ์ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 214 เส้นทางกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ช่วงบริเวณบ้านหนองบัว ถึง บ้านท่ากลาง ต..เจ้าท่า อ.กมลไสย ซึ่งมวลน้ำจากพนังกั้นแม่น้ำชีที่ขาดในพื้นที่ อ.ฆ้องชัยได้ไหลเอ่อเข้าระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร และบางจุดระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ได้ติดป้ายเตือนและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง และร่วมกับผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ ได้ทำการจัดตั้งเต๊นท์จุดเฝ้าระวังน้ำที่บริเวณหน้า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองบัว ต.เจ้าท่า อำเภอกมลาไสย โดยเบื้องต้นขอให้ประชาชนสามารถเลี่ยงใช้เส้นทางหลวงชนบทจากบ้านหนองตุ ไปบ้านโจด เพื่อไป จ.ร้อยเอ็ด
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์พนังกั้นลำน้ำชีขาด ล่าสุดมวลน้ำยังคงขยายวงกว้างออกไป จากพื้นที่ อ.ฆ้องชัย เข้าสู่อำเภอกมลาไสย และเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายชุมชนด้วย ซึ่งล่าสุดหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม“เต็กก่า” จีโหงวเกาะ ได้เร่งนำเรือเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชน และขนย้ายทรัพย์สินของมีค่าให้ประชาชนที่บ้านท่ากลาง บ้านแจ้งจม และบ้านท่าเพลิง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสยไปยังสถานที่ปลอดภัย หลังมวลน้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว
สำหรับความคืบหน้าการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่ขาดล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถซ่อมได้ระยะทางประมาณ 25 เมตร เหลือระยะทางทั้งสิ้น 25 เมตร จากระยะทางขาด 50 เมตร คิดเป็นความคืบหน้า 50% และยังคงเร่งปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
ส่วนผลกระทบที่เกิดจากพนังขาดล่าสุด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่รวม 2 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน 922 ครัวเรือน 2,744 คน แยกเป็น อ.ฆ้องชัย จำนวน 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน 802 หลังคาเรือน 2,383 คน ถนนจำนวน 7 สาย และ อ.กมลาไสย จำนวน 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน 120 หลังคาเรือน 361 คน ถนนจำนวน 3 สาย โดย จ.กาฬสินธุ์ได้ดำเนินการอพยพผู้ประสบอุทกภัยเรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดตั้งโรงครัวเคลื่อนที่ จำนวน 2 จุด ซึ่งสามารถผลิตอาหารเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้วันละประมาณ 2,800 กล่อง นอกจากนี้ยังพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมทั้งสิ้น ประมาณ 69,600 ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจเพิ่มเติม