ปทุมธานี การประชุมแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคกลางและปริมณฑล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องประชุมบัวหลวง ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ตามที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑลได้ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนพัฒนา กลุ่มจังหวัด 5 ปี (2566 – 2570) และจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล และได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดกลางปริมณฑล โดยมีนายชัย อรุณานนท์ชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคกลางและปริมณฑล ประธานที่ประชุม พร้อมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี, นายภัสพลภ์ ชัยสุริยาทวิกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี, นายปกรณ์พัฒน์ เทพเอื้อตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมการค้าธุรกิจท่องเที่ยวปทุมธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดประชุมการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ครั้งที่ 1

โดยเน้นบูรณาการการท่องเที่ยวทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อสอดคล้องกับศักยภาพ ปัญหาความต้องการ ยึดหลัก ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา โดยประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคประชาชนและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันการท่องเที่ยว ประกอบกับได้มีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ.2565 ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 มีผลบังคับใช้ 20 สิงหาคม 2565 โดยมีเนื้อหาสาระที่สำคัญคือการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยให้เน้นบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในการจัดทำแผนฯ ที่สอคคล้องกับศักยภาพ ปัญหาความต้องการ ยึดหลัก ร่วมคิด-ร่วมทำ-ร่วมพัฒนา” ทำงาน แบบเครือข่าย บูรณาการทรัพยากร เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของ ประชาชนในพื้นที่ในการกำหนด แนวทางการพัฒนาแก้ไขปัญหา (ใช้กระบวนการประชาคม เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร สนับสนุนบทบาทของ อปท. ในการพัฒนาตามแผนฯ)

และการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ให้เน้นขับเคลื่อนประเด็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับเป้าหมายฯ ในประเด็นเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ปัญหาร่วม ให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ สนับสนุนความร่วมมือการดำเนินงาน ระหว่างกลุ่มจังหวัด โดยดึงศักยภาพ แต่ละกลุ่มจังหวัดมาใช้ ทำให้ในการจัดทำแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจะต้องมีความร่วมมือและฝ่ายรัฐและเอกชนมากขึ้น ประกอบกับว่าห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาของการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ ซึ่งคือแผนงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ที่จะต้องให้มีประสิทธิผล จึงได้มีการจัดการประชุมเพื่อหารือแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยให้แผน งบประมาณสอดคล้องกับความต้องการของภาคประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลางและปริมณฑล