35 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เข้ายื่นหนังสือขอ รมว.เฮ้ง ช่วยถอนร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ….
35 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ เข้ายื่นหนังสือขอ รมว.เฮ้ง ช่วยถอนร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ….
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือจาก นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ประธานสหภาพการยางแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยยื่นผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
โดยมี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจอีกจำนวน 35 แห่ง เข้ายื่นหนังสือด้วย เนื่องจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ มีมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. เพราะจะทำให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจอ่อนแอลง อาจทำให้เกิดโอกาสทุจริตมากขึ้น จึงเรียกร้องคัดค้านให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกมาก่อน เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มาร่วมกันพิจารณาตามกระบวนการ ณ บริเวณโถงด้านล่างอาคารกระทรวงแรงงาน
นายสุรชัย กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคนที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญในการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานให้ดียิ่งขึ้น ในวันนี้ ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมเป็นตัวแทนท่านรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานมาพบปะกับทุกท่านและรับหนังสือจากตัวแทนสหภาพแรงงานทั้งหมดที่ยื่นไว้ให้ ซึ่งท่านรัฐมนตรีได้ฝากความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจมายังพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคน
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. …. นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเสรีภาพในการรวมตัวการดำเนินกิจการและคุ้มครององค์กรสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ กระทรวงแรงงานจึงมีการยกร่างขึ้นมาใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนบรรจุเป็นวาระให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ทั้งนี้ ผมจะนำหนังสือการขอให้ถอนร่างฉบับดังกล่าวไปเสนอท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อทราบและรายงานท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป
