23/11/2024

เมืองนครพนม สืบสานประเพณีลอยกระทง กระตุ้นการท่องเที่ยวริมโขงและบ้านชนเผ่า

เมืองนครพนม สืบสานประเพณีลอยกระทง กระตุ้นการท่องเที่ยวริมโขงและบ้านชนเผ่า

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ที่บริเวณถนนสวรรค์ชายโขง หมู่บ้านชนเผ่า อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทง 8 ชนเผ่า ประจำปี 2565 ที่อำเภอเมืองนครพนม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2565

เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวไทยในการสืบสานประเพณีวันลอยกระทงในการบูชาและขอขมาต่อแม่น้ำที่เราได้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร ซึ่งได้มีการล่วงเกินในสิ่งต่าง ๆ ลงไป เป็นการลอยเคราะห์และอธิษฐานขอพรต่อแม่น้ำคงคา ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงซึ่งมีความสวยงามที่แตกต่างกัน ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะในช่วงก่อนตะวันลับฟ้าที่มีแสงสาดลงมากระทบกับผิวน้ำในแม่น้ำโขง จะยิ่งตราตรึงใจของใครหลายคนที่ได้มาเยือนบริเวณแห่งนี้

นอกจากนี้บริเวณจัดงานยังมีหมู่บ้าน 8 ชนเผ่าของจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จังหวัดนครพนมได้มีการสร้างบ้านของแต่ละชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนมเอาไว้ เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนได้เห็นและสัมผัสถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของแต่ละชนเผ่าในพื้นที่จังหวัดนครพนม รวมไปถึงเป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจที่ทอดยาวตามริมฝั่งแม่น้ำโขงให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นสบายและรับโอโซนที่แสนบริสุทธิ์ โดยในแต่ละวันจะมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมสนุก ทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงรำวงพื้นบ้าน การประกวดนักร้องลูกทุ่ง การประกวดกระทงและการประกวดนางนพมาศ รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าโอทอปและสินค้าชุมชนในพื้นที่ 13 ตำบลของอำเภอเมืองนครพนม

โดยวันลอยกระทง ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งในปี 2565 นี้ตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน เป็นประเพณีโบราณของอินเดียที่ประเทศไทยรับเข้ามาปฏิบัติ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าทำกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ปรากฏกล่าวได้ว่ามีมาตั้งสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสันนิษฐานว่า เดิมทีเดียวเห็นจะเป็นพิธีของพราหมณ์กระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้ถือตามแนวทางพระพุทธศาสนามีการปล่อยโคมลอยเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์ และลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐาน ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทา

ขณะเดียวกันก็มีตำนานที่หาหลักฐานยืนยันมิได้ กล่าวไว้ว่าในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียงที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป ดังปรากฏในตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์กล่าวถึงพระดำรัสของพระร่วงว่า “แต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน แต่ปัจจุบันมีหลักฐานว่า ไม่น่าจะเก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมการสร้างกระทงแบบต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 1 จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้เปลี่ยนแปลงจากการทำจากดอกบัวเป็นต้นกล้วยเพราะดอกบัวดังกล่าวหายากและมีน้อย จึงใช้ต้นกล้วยทำแทนแล้วดูไม่สวยจึงใช้ใบตองมาพับแต่งจนสวยสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

สุเทพ หันจรัส ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม

ข่าวที่น่าติดตาม