ประจวบฯ ประกอบพิธีลาสิกขาพระสงฆ์ ตามโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรแด่ ‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’
ประจวบฯ ประกอบพิธีลาสิกขาพระสงฆ์ ตามโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรแด่ ‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.66 ที่หอประชุมสงฆ์วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานในพิธีลาสิกขาพระสงฆ์ โครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ในเร็ววัน โดยมีพระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบฯ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
โดยในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 102 รูป พร้อมให้โอวาทแก่ผู้ที่สึกเป็นฆราวาสได้นำหลักคำสอนในการบรรพชาในครั้งนี้ไปใช้ในการทำงานและใช้ในชีวิตประจำวัน และกล่าวขอบคุณผู้อุปถัมภ์โครงการฯ และกล่าวปิดโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
สำหรับโครงการบรรพชาอุปสมบทฯครั้งนี้ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.- 23 ม.ค.66 ที่วัดกุยบุรี เพื่อถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน และเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี นอกจากนี้ผู้ข้าร่วมโครงการยังได้ศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธศาสนา โดยมีวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับพระธรรม พระวินัย การฝึกกรรมฐานและการปฏิบัติตนในเพศบรรพชิต และมีพระพี่เลี้ยงคอยสั่งสอนให้คำแนะนำเพิ่มเติม ซึ่งนับว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตและเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ารับบรรพชาอุปสมบทเป็นอย่างยิ่ง แม้ลาสิกขาไปแล้วก็สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไปได้.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781