22/11/2024

กกต. รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้ง

กกต. รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้ง

ด้วยอายุของสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลง ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ตามมาตรา 102ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ ซึ่งในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งละหนึ่งคน และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งละสามคน
ในการนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้เห็นชอบแนวทางการสรรหา โดยกำหนดให้รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งและคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ 2566 โดยผู้ประสงค์จะเข้ารับการสรรหาต้องยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ตามแบบใบสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (ส.ส. 2/1) หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (ส.ส.2/2) ด้วยตนเองต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำหนด ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 8 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 9 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติ
(1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์ในวันสมัครหรือวันที่ได้รับการทาบทาม
(3) มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้น
(4) มีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริต

ลักษณะต้องห้าม
(1) ติดยาเสพติดให้โทษ
(2) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(3) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(4) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
(5) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(6) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(7) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
(8) เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมาแล้วไม่ถึงสิบปีนับถึงวันสมัครหรือวันที่ได้รับการทาบทาม เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(9) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริต หรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
(10) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(11) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
(12) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
(13) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
(14) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(15) เป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง
เมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัครแล้ว หากมีผู้สมัครผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งน้อยกว่า 2 คน หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง น้อยกว่า 6 คน ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดดำเนินการทาบทามบุคคลจากผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 8 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 9 เพื่อสมัครเข้ารับการสรรหาให้ครบตามจำนวนดังกล่าว โดยยื่นใบสมัครตามแบบ ส.ส. 2/1 (ท) หรือแบบ ส.ส. 2/2 (ท) แล้วแต่กรณี ภายใน 3 วันนับแต่วันสิ้นสุดการรับสมัคร และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ประวัติ และพฤติการณ์ของผู้เข้ารับการสรรหาและผู้ที่ได้รับการทาบทามให้แล้วเสร็จภายใน 10 วันนับแต่วันปิดรับสมัคร

ข่าวที่น่าติดตาม