กาฬสินธุ์ ผู้ว่ากาฬสินธุ์สั่งสอบข้อเท็จจริงไฟไหม้บ่อขยะทต.โนนบุรีทำอากาศเป็นพิษ
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์สั่งสอบข้อเท็จจริงปัญหาไฟไหม้บ่อขยะเทศบาลตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ทำอากาศเป็นพิษ พร้อมร่วมระดมเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบบ่อขยะ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ป่วยติดเตียง สูงอายุเข้าสู่ที่ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทุกหน่วยงานสามารถเข้าทำการควบคุมเพลิงได้แล้วพร้อมเร่งฟื้นฟูสาเหตุขยะมีพิษเนื่องจากสะสมไว้นานและไม่มีการบริหารจัดการที่ดี
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อทิ้งขยะของเทศบาลตำบลโนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 12 มี.ค.66 ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมเพลิงและมลพิษ ก่อนฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือค่า PM 2.5 จะแผ่ปกคลุมทั้งอำเภอ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพชาวบ้าน เนื่องจากพิษของขยะนั้น
ล่าสุดวันที่ 16 มีนาคม 2566 รายงานแจ้งว่า จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะของ สำนักงานเทศบาลตำบลโนนบุรี ในพื้นที่ ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก.อบจ.กาฬสินธุ์ นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.ส.แววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเขต 10 ,สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าติดตามปัญหาไฟไหม้บ่อขยะ พบเจ้าหน้าที่ดับเพลงจากพื้นที่ใกล้เคียงหลายอำเภอยังคงระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงบ่อขยะที่มีควันปะทุอยู่ภายใน ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำเครื่องจักรเข้าขุดบ่อบาดาลตรงบ่อขยะเพื่อสูบน้ำในการหล่อเลี้ยง และมีการนำรถแบ๊คโฮเข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ไฟที่ไหม้กองขยะดับสนิทภายในวันนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้นำชุมชนที่ได้รับผลกระทบได้นำทีม อสม.และทีมแพทย์ พยาบาลเข้าตรวจสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยเปราะบาง ที่เริ่มมีอาการแน่นหน้าอกเนื่องจากสูดอาการที่มีควันพิษเข้าไป และยังนำหน้ากาอนามัยไปมอบให้กับประชาชน นอกจากนี้ทางด้านของ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังส่งเจ้าหน้าที่เข้าประเมินสภาพอากาศโดยรอบพื้นที่อำเภอสหัสขันธ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ในพื้นที่มีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ มีเขื่อนลำปาว และวัดสำคัญหลายแห่ง ที่ได้รับปัญหาเบาบางและคาดว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
น.ส.แววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า สาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนแต่คาดว่าจะเกิดจากฝีมือของชาวบ้านที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะมีการลักลอบจุดเผาขยะเนื่องจากบ่อขยะแห่งนี้เป็นของสำนักงานเทศบาลตำบลโนนบุรีที่มีซื้อพื้นที่ของตำบลโนนน้ำเกลี้ยงและมีการจัดทำบ่อทิ้งขยะที่มีปริมาณสะสมจำนวนมาก เมื่อเกิดเพลิงไหม้จึงทำให้เกิดรุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการหมักหมมจึงทำให้ขยะเหม็นมีพิษต่อระบบทางเดินหายใจที่ทำให้มีประชาชนล้มป่วยเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมแล้ว 10 ราย และเท่าที่ติดตามสถานการณ์คาดว่าเพลิงได้สงบลงแล้วที่จำเป็นจะต้องดำเนินการฟื้นฟูสุขภาพชุมชน
ขณะที่ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหานี้จะมีการทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำรวจผลกระทบทางด้านสุขภาพของประชาชนและมีการสอบสวนหาสาเหตุของปัญหาเพลิงไหม้บ่อขยะ ที่จะให้ทาง สำนักงานเทศบาลตำบลโนนบุรี ชี้แจงวิธีการปฏิบัติในการทิ้งขยะและการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ในส่วนของประชาชนจะมีการรณรงค์ของความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนร่วมกันหยุดเผาและเป็นหูเป็นตาในการติดตามป้องกันการเผาขยะในบ่อขยะทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป
สำหรับบ่อขยะพื้นที่ 30 ไร่ ที่บ้านโคกไม้งาม หมู่ที่ 3 ต.โนนน้ำเกลี้ยง อ.สหัสขันธ์ ที่ถูกเพลิงไหม้ครั้งนี้ เพลิงเผาผลาญไปกว่าร้อยละ 90 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนขยะทั้งหมด แต่เนื่องจากบริเวณพื้นที่อำเภอสหัสขันธ์อาชีพส่วนใหญ่จะมีการเก็บของเก่าขายจึงทำให้มีการนำขยะอิเลคโทนิคเข้ามาทิ้งจำนวนมาก ทำให้มีเศษเหล็ก อลูมิเนียมที่ถูกเผาลอยฟุ้งในอากาศ รัศมี 3-4 กิโลเมตร กว่า 5 วัน อากาศบริเวณนี้ไม่สะอาด อากาศมีพิษที่ประชาชนเจ็บป่วย หลายครอบครัวได้นำเด็กเล็ก คนชรา ผู้ป่วยติดเตียงไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่อื่น ส่วนกลุ่มผู้ยากไร้และเปราะบาง ก็ได้นำไปอยู่ตามโรงพยาบาลหรือพื้นที่ปลอดภัย และจำเป็นต้องใช้เวลาในการป้องกันตัวอีกหลายวัน ทางจังหวัดจะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาผู้รับผิดชอบจากเหตุการณ์ครั้งนี้เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 410 หลังคาเรือน ใน 3 หมู่บ้าน ในพื้นที่ ตำบลสหัสขันธ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่บริเวณร่องลมที่พัดเอาอากาศที่มีพิษเข้ามา