23/11/2024

เลือกตั้งเขต 6 สงขลา เดือดปุดๆ “น้ำหอม” สู้สุดฤทธิ์ กับ”เสี่ยโบ๊ต” และ”รองอั๋น” ที่หวัง”ปักธง” เป็น สส.

สกู๊ป
เลือกตั้งเขต 6 สงขลา เดือดปุดๆ “น้ำหอม” สู้สุดฤทธิ์ กับ”เสี่ยโบ๊ต” และ”รองอั๋น” ที่หวัง”ปักธง” เป็น สส.

 


เขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา เป็นอีกหนึ่งเขตเลือกตั้งที่ มีการแข่งขันกันหนัก ระหว่าง น.ส.สุภาพร กำเนินผล “ น้ำหอม” ที่เป็น สส.ในเขตนี้จากการเลือกตั้งซ่อม กรณีที่ “ถาวร เสนเนียม” ถูกศาลตัดสิทธิ์ ให้พ้นจากการเป็น สส.ในเขตนี้ ในปี 2564 ซึ่งในการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนั้น เป็นการแข่งขันระหว่าง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นภรรยาของนายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ “นายกชาย” กับ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ หรือ “เสี่ยโบ๊ต” ตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ลูกชายของนายอนันต์ พฤกษานุศักดิ์ “คหบดี”ของ อ.สะเดา จ.สงขลาและ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสะเดา หุ้นส่วนบริษัท”ศรีตรัง” ผู้ค้ายางและส่งออกยาง รายใหญ่ของประเทศไทย ส่วนผู้สมัครของพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนั้น เป็นได้แค่”ไม้ประดับ” เท่านั้น
ในอดีตเขตเลือกตั้งที่ 6 ประกอบด้วย อ.สะเดา ยกเว้น ต.สำนักขาม ต.สำนักแต้ว อ.คลองหอยโข่ง ทั้งหมด และ ต.บ้านพรุ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.มีการ แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 6 คือ อ.สะเดา และ อ.คลองหอยโข่ง ทั้งหมด ทำให้การ “หาเสียง” การลงพื้นที่เพื่อ”พบปะประชาชน”ของผู้สมัครมีความสะดวกขึ้น ที่สำคัญในการ เลือกตั้งซ่อม เมื่อปี 2564 แม้ว่านายถาวร เสนเนียม เจ้าของพื้นที่หลายสมัย จะไม่ได้ลงรับเลือกตั้ง แต่นายถาวร ก็ประกาศให้การ สนับสนุน นายอนุกูล ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐให้ได้เป็น สส. อย่างเปิดเผย ทั้งที่นายถาวร เป็นอดีต สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหนึ่งในผู้ สนับสนุน ให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง “นายกชาย”ให้เข้าพรรคประชาธิปัตย์ จนได้เป็น สส.เขต 5 จ.สงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สุดท้ายการเลือกตั้งครั้งนั้น จบลงที่ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล จากพรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะ นายอุกูล พฤกษานุศักดิ์ ไปถึง 4,000 กว่าคะแนน และเป็นการชนะอย่าง”ถล่มทลาย” ในพื้นที่เล็กอย่าง อ.คลองหอยโข่ง ส่วนนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ชนะในพื้นที่ใหญ่ในเขตเทศบาลอำเภอสะเดา แต่เป็นการชนะที่”ไม่ขาด”


ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังมีมติส่ง สส.สุภาพร กำเนิดผล ลงสมัครในเขต 6 เช่นเดิม ซึ่งเหมือนกับเป็นการลง”ป้องกันแชมป์” กับคู่ชิงคนเดิม คือนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ซึ่งยังคงสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ “ลุงป้อม” เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นผู้สมัครคนเดียวของ จ.สงขลา จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่มีการ”ย้ายพรรค” ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”ลุงตู่” รักษาการนายกรัฐมนตรี โดย”เสี่ยโบ๊ต” ได้รับการ”ปูนบำเหน็จ” ในความ”จงรักภักดี” กับ”ลุงป้อม” ด้วยการแต่งตั้งให้เป็นที่”ปรึกษา”ของ”ลุงป้อม” ในการ เลือกตั้งครั้งนี้
แต่….เลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ ไม่เหมือนกับการ”เลือกตั้งซ่อม” เมื่อ 2 ปีก่อน เพราะ นอกจาก”สส.น้ำหอม” และ”เสี่ยโบ๊ต” ที่เป็น”คู่ชิง” ในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาแล้ว ยังมีผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นๆ ลงสมัครในพื้นที่ เขต 6 อีกหลายพรรค และหนึ่งในหลายพรรคที่กล่าวมามี นายภูวดล (อั๋น) วงษ์โสภณากุล ซึ่งลาออกจากการเป็น เลขานุการนายก อบจ.สงขลา มาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในเขตที่ 6 โดยสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติของ”ลุงตู่” และที่สำคัญคือมีนายถาวร เสนเนียม ซึ่งเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยภักดี ประกาศให้การ สนับสนุนนายภูวดล วงษ์โสภณากุล เช่นเดียวกับที่เคยให้การสนับสนุนนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ มาแล้วในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อ 2 ปีก่อน
ในการเลือกตั้งซ่อม ที่ผ่านมา ชัยชนะของ” สส.น้ำหอม” มาจากการระดม”สรรพกำลัง” ของ สส.เดชอิศม์ ขาวทอง “ นายกชาย” และ”แกนนำ”ของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น”นิพนธ์ บุญญามณี” และ สส. อดีต สส.ของพรรคที่”เต็มที่” กับในเวทีปราศรัย และในเรื่อง อื่นๆ “นายกชาย” มี”ยุทธศาสตร์” และมี”ประสบการณ์” ทางการเมืองที่เหนือกว่าในขณะที่”เสี่ยโบ๊ต”ดึงเอา “เสี่ยแฮ้งค์” นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน มานั่งเป็น”ผู้อำนวยการเลือกตั้ง” ซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่ และให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คนสนิทของ”บิ๊กป้อม” เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการ”ปรายศรัย” และมีการ”ปราศรัย” ให้เลือก”คนรวย” เป็น สส. สร้างความไม่พอใจให้กับ”คนจน” ที่รู้สึกว่าถูกทีม”ปราศรัย”ของ”เสี่ยโบ๊ต” ดูถูก ทำให้ คะแนนนิยม ส่วนหนึ่งหายไป จากการถูก “สส.ประชาธิตย์ นำคำ”ปราศรัย”ของ ร.อ.ธรรมนัส มาขยายผลและขยายแผล มีนายอนุมัติ อาหมัด อดีต สว.ที่เป็นอีกหนึ่งผู้ใกล้ชิดของ”บิ๊กป้อม” เป็น”กุนซือ” และมี สจ.อ.สะเดา ที่มีศักดิ์เป็น”อาเจ๊ก” ของ”เสี่ยโบ๊ต” เป็น”แม่ทัพ” การ”จัดทัพ” ของ”เสี่ยโบ๊ต” จึงกลายเป็น”จุดอ่อน” ไม่มี”ยุทธศาสตร์” ไม่มี”ประสบการณ์” ทางการเมืองระดับชาติ ที่สำคัญมีการ”ประเมิน” สถานการณ์ที่ไม่ถูกต้อง “เข้าข้างตนเอง”ไม่เข้าใจและไม่ทัน”เล่ห์เหลี่ยม” ของ”หัวคะแนน” และเชื่อมั่นใน”อำนาจรัฐ” ที่มี “แม่ทัพ นายกอง นายตำรวจระดับ”นายพล 5 ดาว”เข้าร่วมประชุมบน”โต๊ะอาหาร”ในการต้อนรับ “บิ๊กป้อม”ในการลงพื้นที่ ซึ่งเป็น”ภาพลวงตา” เพราะไม่สามารถใช้”อำนาจ” ในการ”ชี้นำ” ประชาชนในเขตเลือกตั้งได้
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ “สส.น้ำหอม” ซึ่งเป็น”เจ้าของพื้นที่” ยังมี”แต้มต่อ” เสี่ยโบ๊ต อยู่ หลายขุม เพราะ 2 ปี ของการเป็น สส. “น้ำหอม” ลงพื้นที่ ทำประโยชน์ แก้ปัญหา และพบปะ “มวลชน” โดยเฉพาะกลุ่ม”แม่บ้าน” และ” สตรี” อย่าง “เกาะติด” มี ประสบการณ์ของ นักการเมืองที่ไม่ใช่” ละอ่อนทางการเมือง” เหมือนกับ 2 ปีก่อน ที่ต้องอาศัย”ลมใต้ปีก” ของ”นายกชาย” ในการ”หนุนเสริม” ให้ได้เป็น สส. ของประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6
ส่วน”เสี่ยโบ๊ต “ ในการเลือกตั้งครั้งนี้คงจะ”ซึบซับ” บทเรียนของความ”พ่ายแพ้” และคงจะทำการ”ปิดจุดอ่อน” ตั้งแต่การตั้ง “ผู้อำนวยการเลือกตั้ง” และ”เสนาธิการ” รวมทั้ง”แม่ทัพ” ในการ”บัญชาการรบ”ในพื้นที่ ซึ่งจากการติดตามก็เห็นว่า”เสี่ยโบ๊ต” หลังจากที่”พ่ายแพ้” ในครั้งที่แล้ว ก็ไม่ได้หลบหน้าไป”เลียแผล” แต่อย่างใด แต่”เสี่ยโบ๊ต” กลับ”มุมานะ” ลงพื้นที่ พบปะประชาชน สร้าง “เครือข่าย” และ”หัวคะแนน”ที่”ไว้ใจได้” โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง ที่เป็น”จุดอ่อน” ของ”เสี่ยโบ๊ต” เพื่อ “เสริมใยเหล็ก” ให้”แข็งแกร่ง”พอที่จะ”ต้านทาน” การบุกตะลุยอย่างหนักของ”สส.น้ำหอม” และ”นายกชาย” รวมทั้งทีมงานของ”ประชาธิปัตย์” ที่ยัง”ฮึกเหิม” และเชื่อมั่นว่า ยังจะได้ชัยชนะไม่ยาก ซึ่งหาก”เสี่ยโบ๊ต” สามารถ”ปิดจุดอ่อน” และมี”เสนาธิการ” มี”แม่ทัพ” ที่มี”ประสบการณ์ โอกาสที่จะสร้างความ”ปั่นป่วน” ให้กับ”สส.น้ำหอม” และทีมงานของ”ประชาธิปัตย์” ได้เช่นเดียวกัน
เพราะการที่ “ถาวร เสนเนียม” ส่ง”หลานชาย” อย่าง “รองอั๋น” นายภูวดล วงษ์โสภณากุล ลงสมัครใน”สีเสื้อ” พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อ”โหนกระแส” เรารัก”ลุงตู่”ของคนใต้ รวมถึงการที่”คนใต้” เป็นพวก”กลัวผีทักษิณ” เมื่อเห็นข่าวการ”ประประโคมโหมโห่” ว่า “ทักษิณ” จะ “กลับบ้าน” ก็”หวาดผวา”และเชื่อว่า”ลุงตู่” คือ”หมอผี” เพียงคนเดียว ที่จะปราบ”ผีทักษิณ” ได้ บรรดา” คนใต้” ที่เกลียดทักษิณและกลัว”ผีทักษิณ” ก็จะไปเลือกผู้สมัครของพรรค”ลุงตู่” เป็นการ”ทำลาย” คะแนนของ” สส.น้ำหอม” มากกว่าการทำลายคะแนนของ”เสี่ยโบ๊ต” ซึ่งจะเป็น”ผลเสีย” ให้กับ”สส.น้ำหอม” ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประกอบกับเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เหมือนเลือกตั้งซ่อมเมื่อ 2 ปีก่อน ที่”นายกชาย” เดิน”ย่ำเท้า” ในพื้นที่อย่างทั่วถึง แต่ครั้งนี้ “นายกชาย” คือ”ขุนทัพ” ของ”ประชาธิปัตย์”ใน ภาคใต้ ที่ต้องรับผิดชอบการเลือกตั้งถึง 40 เขต การ”สั่งการ” บางครั้งก็ไม่เหมือนการ”ลงพื้นที่” ด้วยตนเอง
แต่ ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ “กระแส” ของ”สส.น้ำหอม” ยังมี”เรตติ้ง” ที่เหนือกว่า”เสี่ยโบ๊ต” ในหลายพื้นที่ เช่น อ.คลองหอยโข่ง .ต.ปาดังเบซาร์ ต.สำนักขาม ซึ่งหากมีการเลือกตั้งใน 7 วัน 10 วันนี้ “น้ำหอม” ก็จะรักษาแชมป์ในการเป็น สส.เขต 6 สมัยที่ 2 ได้แน่ แต่เมื่อการเลือกตั้งคือวันที่ 14 พฤษภาคม เวลาอีกเดือนกว่า อาจจะมีความ”พลิกผัน” ได้มากมาย และแม้แต่”เสี่ยโบ๊ต” เอง ก็ต้องเข้าใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจาก”เสี่ยโบ๊ต”ที่ต้องชนกับ”สส.น้ำหอม” แล้ว ยังมี ผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ อีกจำนวนมาที่มาเป็น”ตัวแปร” ในการ”แชร์คะแนน”ในพื้นที่ แต่ไม่ว่าอย่างไร “เกจิ” ทางการเมืองก็”ฟันธง” ตั้งแต่ยังไม่ได้”หมายเลข”ผู้สมัครว่า เขตเลือกตั้งที่ 6 เป็นเขตที่”ดุเดือด” อีกเขตหนึ่งของ จ.สงขลา และเป็นการสู้กันระหว่าง”สส.น้ำหอม” กับ”เสี่ยโบ๊ต” เพียงสองคน เท่านั้น ส่วนใครจะ”เข้าวิน” เป็น “ผู้แทนปวงชน” ได้ตามที่ต้องการอยู่ที่”ปลายปากกา” ของ”ประชาชน”

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

ข่าวที่น่าติดตาม