22/11/2024

การยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

การยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคนต้องใช้จ่ายไม่เกิน 1,900,000 บาทและพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ต้องใช้จ่าย
ไม่เกิน 44,000,000 บาท โดยให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ยุบสภาจนถึงวันเลือกตั้ง (วันที่ 20 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2566) แยกประเภทของค่าใช้จ่าย ดังต่อไปนี้

(1) ค่าใช้จ่ายในการสมัครรับเลือกตั้ง เช่น ค่าสมัครรับเลือกตั้ง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น

(2) ค่าจ้างแรงงาน เช่น ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง ค่าจ้างในการปิดป้ายโฆษณาหาเสียง ค่าจ้างแจกใบปลิว แผ่นพับ รวมทั้งค่าจ้างแรงงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และไม่มีพฤติการณ์ที่ส่อไปใน
การกระทความผิดกฎหมายเลือกตั้ง เป็นต้น

(3) ค่าจ้างทำของ  เช่น ค่าจ้างทำเสื้อแจ็กเก็ต หมวก และเสื้อยืด หรืออื่น ๆ สำหรับผู้ช่วย
หาเสียง เป็นต้น

(4) ค่าโฆษณาในสื่อต่าง ๆ

(5) ค่าจัดทำป้าย เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการโฆษณาหาเสียง

(6) ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือค่าบริการทางอิเล็กทรอนิกส์

(7) ค่าจัดซื้อหรือเช่าวัสดุ และอุปกรณ์สำหรับใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

(8) ค่าเช่าสถานที่และค่าตกแต่งสถานที่

(9) ค่าเช่ายานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

(10) ค่าสาธารณูปโภค

​​(11) ค่าอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ช่วยหาเสียง

(12) ค่าอบรมผู้สมัครหรือผู้ช่วยหาเสียง

(13) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ขัดต่อกฎหมายหรือเป็นเหตุให้
การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

ทั้งนี้ ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคน
ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง รวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
ต่อผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นหนังสือให้ผู้อื่นยื่นแทน สำหรับพรรคการเมือง ให้หัวหน้าพรรคการเมืองยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง รวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริงต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นหนังสือให้ผู้อื่นยื่นแทน ภายใน 90 วันนับจากวันเลือกตั้ง
ซึ่งวันสุดท้ายที่ครบ 90 วัน ตรงกับวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ จึงให้นับ
วันอังคารที่ 15 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันทำการแรกต่อจากวันหยุดทำการเป็นวันสุดท้ายของระยะเวลา
การยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานครได้รับ
ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ให้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวเบื้องต้นว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการสมัครรับเลือกตั้ง เช่น ค่าสมัคร ค่าใบรับรองแพทย์ ค่าถ่ายรูป แล้วหรือไม่ หรือรายการค่าใช้จ่ายใดไม่มีเอกสารหลักฐานประกอบ

หรือมีแต่ไม่ครบถ้วน ให้แจ้งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ในการนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เปิดเผยรายงานสรุปรายรับและรายจ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคน ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ภายในวันที่ 14 กันยายน 2566)

———————————–

ข่าวที่น่าติดตาม