ชุมพร – ชาวบ้านโวย ร้องสื่อ เงินออมทรัพย์ฯส่อล่ม ชาวบ้านแห่ถอนแต่ไม่มีจ่าย คณะกรรมการปิดเงียบไม่ชี้แจงสมาชิกกว่า 200 คนเคว้ง แจ้งหน่วยงานไม่คืบหน้า คาดเสียหายนับล้านบาท
ชุมพร – ชาวบ้านโวย ร้องสื่อ เงินออมทรัพย์ฯส่อล่ม ชาวบ้านแห่ถอนแต่ไม่มีจ่าย คณะกรรมการปิดเงียบไม่ชี้แจงสมาชิกกว่า 200 คนเคว้ง แจ้งหน่วยงานไม่คืบหน้า คาดเสียหายนับล้านบาท
วันที่ 13 มิ.ย.66 ที่ศาลาพรสุขสว่าง วัดหงษ์ปิยาราม หมู่ 4 ตำบลหงส์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตัวแทนชาวบ้านประมาณ 40 คนรวมตัวกัน โดยทั้งหมดเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตสมุดสัจจะสะสมทรัพย์(กองทุนหมู่บ้าน)ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวหลังจากสมาชิกกว่า 200 คนขอเบิกถอนเงินสะสมพร้อมดอกเบี้ยปันผลแต่ถูกคณะกรรมการปฏิเสธและไม่สามารถชี้แจงถึงปัญหาดังกล่าวได้หลังเกิดเหตุนานกว่าครึ่งปีเรื่องคาราคาซังยังไม่มีคำตอบให้สมาชิกว่าเงินหายไปไหนแถมบ่ายเบี่ยงมาตลอด พบอีกว่ารายชื่อออมเงินเพื่อใช้ยามจำเป็นมีสมาชิกวัย 3 เดือนและ 2 ขวบหายไป ถอนไม่ได้เช่นกัน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางสุธารัตน์ ระลึกเย็น อายุ 66 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลหงส์เจริญ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ว่า ตนเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ปี 2558 ฝากเดือนละ 200 บาทและได้เงินปันผลมาทุกปี กู้บ้างจ่ายหมดกู้ใหม่เพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนโดยมีลูกชายและหลานเป็นสมาชิกด้วยรวมเป็นสมาชิกเงินออมทรัพย์ 4 คนสมุทร 4 เล่ม เป็นเงินที่ส่งไปแล้วและมียอดเงินฝากอยู่ในกองทุนประมาณ 58,800 บาท
นางสุธารัตน์ เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางผู้ใหญ่บ้านว่าไม่มีเงินปันผลให้กับลูกบ้านออมทรัพย์ เมื่อถามว่าเงินไปไหน ได้คำตอบที่ไม่แน่ชัด บอกว่าไม่รู้ไม่เห็น และไม่มีคำตอบ ไม่ชี้แจง เมื่อถามกลับอีกว่าใครเป็นประธานกรรมการ ได้รับคำตอบว่ากำนันคนเก่า แต่ตนสังเกตุว่าไม่เห็นกำนันคนเก่าไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับกลุ่มออมทรัพย์เลย ทราบว่าปัจจุบันมีคณะกรรมการจำนวน 6 คน ซึ่งก่อนหน้านี้นางสุธารัตน์บอกว่าตนเองจะถอนเงินมาซื้อปุ๋ยสัก 20,000 บาท แต่ถูกคณะกรรมการห้ามไว้ว่าอย่าเพิ่งถอนให้ได้เงินปันผลเป็นดอกเบี้ยก่อนแต่เมื่อถึงเวลากลับบอกว่าไม่มีเงินให้ถอน ส่วนสมุดลงบันทึกการเบิกจ่ายเงินออมทรัพย์ก็ถูกยึดไว้ เพิ่งจะได้คืนกันมาบ้างแล้ว หลังจากเกิดเรื่องได้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมผ่านมา 2 เดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ทางด้านนายศรีไพร เอมมิน้อม อายุ 52 ปี สมาชิกออมทรัพย์ฯ เผยว่า ตนเองลงชื่อเพื่อปิดบัญชีไปเป็นปีแล้วแต่ไม่สามารถถอนเงินได้ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด คณะกรรมการอ้างว่ารอประชุมครั้งต่อไป ไม่มีความชัดเจนตกว่าล่มหรืออย่างไรกันแน่ สมาชิกหลายคนรอเบิกเงินเพิ่มเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน คณะกรรมการอธิบายไม่ได้ไม่มีคำตอบให้สมาชิก อีกทั้งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องว่าใครคือประธานกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีปัญหามาบ้างแล้วแต่ในคณะกรรมการอาจจะแก้ไขกันภายใน แต่ครั้งนี้หนักมากถึงไม่มีเงินจ่ายสมาชิก เพียงให้คณะกรรมการบอกมาว่ามีปัญหาอย่างไรจะได้ช่วยกันแก้ไข แต่ทุกคนเงียบ
ส่วนนางปราณี สุขวิไล อายุ 75 ปี บอกว่า ฝากเงินออมทรัพย์ไว้เมื่อกว่า 10 ปีก่อน เปิดฝากเงินชื่อลูกสาววัย 52 ปี เหลนวัย 2 ขวบและ 3 เดือนด้วย พอจะถอนเงินและขอปิดบัญชีต้นในวันที่ 7 เดือนมกราคม 2566 และได้เวลาปันผลปรากฏว่าไม่ได้เงิน อายุก็มากแล้วจำเป็นต้องถอนเงินไปเป็นค่ารักษาโรคเข่าเสื่อมเดินไม่ค่อยไหว เงินค้างในบัญชีอออมทรัพย์ของหมู่บ้าน 71,400 บาท รู้สึกเหนื่อยมากที่ต้องเดินทางจากบ้านมาทวงถามเงินที่หายไป
ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากชาวบ้านที่เป็นสมาชิกว่า กลุ่มออมทรัพย์ดังกล่าวก่อตั้งมานานกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 200 คน แต่ละคนสามารถเปิดสมุดฝากเงินขั้นต่ำเดือนละ 100 บาท ส่วนดอกเบี้ยเงินปันผลแต่ละปีของสมาชิกขึ้นไม่คงที่ขึ้นอยู่กับการยื่นขอกู้ในแต่ละปีว่ามากน้อยเพียงใด ซึ่งปีก่อนเคยเกิดปัญหาเช่นเดียวกันแต่ทางคณะกรรมการมีการแก้ปัญหาภายในแต่ครั้งนี้เกิดเรื่องแดงเมื่อวันที่ 7มกราคม เมื่อถึงวันนัดของสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อทำรายการประจำปี แต่เมื่อสมาชิกรายที่ไม่ติดหนี้กองทุนหมู่บ้านขอถอนเงินแต่ทางคณะกรรมการยอมรับว่าไม่มีเงินให้ถอนได้และไม่มีการชี้แจงว่าเงินหายไปไหน และถูกบ่ายเบี่ยงการขอถอนเงินมาตลอด
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 สมาชิกผู้เดือดร้อน 3 รายได้นำหลักฐานที่สามารถรวบรวมได้แต่ไม่มีสมุดเงินฝาก-ถอน เนื่องจากบางรายถูกคณะกรรมการยึดไป เดินทางแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำเสนอต่ออำเภอท่าแซะและหน่วยงานที่ควบคุมกลุ่มออมทรัพย์(กลุ่มสัจจะ)ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลหงส์เจริญฯเป็นผู้ดูแล และจัดการเรื่องการเก็บเงินสมาชิกเข้ากองทุนและพวกผู้แจ้งไม่สามารถตรวจสอบเงินฝากสะสมและถอนเงินได้หรือปันผลดอกเบี้ย
อีกทั้งคณะกรรมการไม่ได้ส่งมอบสมุดเงินฝากสะสมซึ่งได้ส่งมอบคณะกรรมการไปเก็บไว้ จึงมาแจ้งไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำเสนอต่อนายอำเภอท่าแซะ ผู้บังคับบัญชาทราบผู้ใหญ่บ้านทราบดำเนินการต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามผู้ใหญ่บ้านแต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงเดินทางไปยังบ้านพักปรากฏว่าปิดบ้าน ทั้งนี้เพื่อขอคำชี้แจงกรณีปัญหาดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514