เสาไฟฟ้าสำโรงเหนือสมุทรปราการพ่นพิษ เครือข่ายสื่อฯกระทุ้งป.ป.ช.รอบสองขอทราบความคืบหน้า จะนำตัวผู้ไม่สุจริตและประพฤติมิชอบมาดำเนินคดีได้เมื่อไร
เสาไฟฟ้าสำโรงเหนือสมุทรปราการพ่นพิษ เครือข่ายสื่อฯกระทุ้งป.ป.ช.รอบสองขอทราบความคืบหน้า จะนำตัวผู้ไม่สุจริตและประพฤติมิชอบมาดำเนินคดีได้เมื่อไร
เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 23 มิ.ย.66 นายปทุม คงคากรวัชร์ รองประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) พร้อมทีมงาน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นครั้งที่ 2 เพือขอทราบความคืบหน้ากรณีที่เคยมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.มาแล้ว เพื่อกล่าวโทษเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นายธวัชชัย สุขศิริผล นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการพิเศษ
รักษาราชการแทนสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับมอบอำนาจมารับหนังสือดังกล่าวแทน ภายหลังการยื่นหนังสือสร็จสิ้น
นายปทุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจาก เครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำบลสำโรงเหนือ จำนวนมากว่า ขอให้ตรวจสอบโครงการการก่อสร้างเสาไฟฟ้าของ เทศบาลสำโรงเหนือ เนื่องจากพบว่า มีการติดตั้งเสาไฟฟ้าที่ไม่ใด้คุณภาพ และไม่ตรงตามคุณลักษณะตามที่กำหนดไว้ในการประกวดราคาและสัญญา โดยสัญญากำหนดว่า เสาไฟฟ้าที่นำมาติดตั้ง จะต้องเป็นเหล็กชุบกัลวาไนซ์ และทำสีสองหน้า มีความคงทนต่อการกัดกร่อน และมีอายุการใช้งานอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 30-50 ปี
แต่ปรากฎว่า ผู้รับจ้างได้นำเสาไฟฟ้าที่เป็นเหล็กพ่นสีธรรมดา (ผิดแบบในสัญญา) ซึ่งมีขนาดบาง และมีราคาถูกกว่า ทำให้เสื่อมสภาพตั้งแต่ ๑ ปีแรกที่ติดตั้ง จนกระทั่งปัจจุบันติดตั้งมา 8 ปีพบว่า มีสนิมและหักแตกผิดรูปจนแทบจะใช้งานตามวัตถุประสงค์ไม่ได้เลย จึงมีเหตุให้เชื่อว่า เทศบาลตำบลสำโรงเหนือ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กระทำการไม่สุจริตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ราชการเสียหาย ประกอบกับการจัดทำโครงการดังกล่าว ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น เสาไฟฟ้าที่ติดตั้งบนเกาะกลาง ถนนเทพารักษ์ ระยะทางเพียง 2 กิโลเมตร จะต้องถูกรื้อถอนออก เพราะเป็นพื้นที่แนวทางรถไฟฟ้า ที่กำลังจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2565 ได้มีเสาไฟฟ้าชำรุดเสียหายจนใช้การไม่ได้เป็นจำนวนประมาณ ๒๐ ต้น และทางเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ ได้มีการถอดถอนจัดเก็บไปแล้ว จึงอยากให้ทาง ป.ป.ช. ช่วยตรวจสอบว่าเป็นเพราะสาเหตุใด เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนข้างต้นหรือไม่ รองประธาน ส.ท.ช. กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีนี้เรียบร้อยแล้ว รองประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) ยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย.