กรมเชื้อเพลิงเดินหน้าสร้างความเข้าใจพลังงานปิโตรเลียม

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ร่วมกับพลังานจังหวัดกาฬสินธุ์ และเครือข่ายปิโตรเลียมอีสาน จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมแก่เครือข่ายปิโตรเลียมจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจด้านปิโตรเลียมอีสานและระดับประเทศ รองรับการพัฒนาสำรวจปิโตรเลียม ในอนาคต

ที่ห้องประชุม สถานีผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นางเกศสุดา ศุภสุนทรกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นประธานจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมแก่เครือข่ายปิโตรเลียม จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนางดวงเดือน จักปล้อง พลังงาน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเครือข่ายปิโตรเลียมอีสาน และเครือข่ายปิโตรเลียม จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมดังกล่าว มีนายรัฐพล ศรีตะปันย์ วิศวกรปิโตรเลียม ชำนาญการพิเศษ บรรยายเรื่องการกำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ขณะที่วิทยากรจาก บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บรรยายเรื่องการดำเนินการของสถานีผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม จากนั้น นำชมกิจกรรมด้านพลังงานเชื้อเพลิง และเดินทางไปศึกษาดูงานที่โรงไฟฟ้าน้ำลิก 1 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

นางเกศสุดา ศุภสุนทรกูล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่าการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมแก่เครือข่ายปิโตรเลียมในครั้งนี้ เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ด้านพลังงานเชื้อเพลิงในปัจจุบันและในอนาคต ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจด้านปิโตรเลียม ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนราชการ และเครือข่ายปิโตรเลียม ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากภาคประชาชน ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชน เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ตั้งแต่กระบวนรับรู้ การสำรวจ การขุดเจาะ การขนส่ง การผลิตพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนความคุ้มค่า ผลประโยชน์ที่ชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้รับ โดยเฉพาะในส่วนของการสร้างองค์ความรู้ให้ทราบว่า การขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ หรือกระบวนการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในการนำก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้ประโยชน์นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ด้านนายรัฐพล ศรีจะปันย์ วิศวกรปิโตรเลียมชำนาญการพิเศษ กล่าวว่าปิโตรเลียมและการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นปัจจัยที่จำเป็นในการประกอบกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ขณะที่ในปัจจุบัน ค่าไฟ ค่าน้ำมันสูงขึ้น จึงเป็นภารกิจที่กรมเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นฝ่ายจัดหาก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ ภายในประเทศ เพื่อนำมาสำรองใช้ในอนาคต และลดการนำเข้า

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีการสำรวจที่บริเวณอ่าวไทย และทำการจุดเจาะจำนวน 20 หลุม พบปริมาณมากพอที่จะนำมาใช้ประโยชย์ 4-5 หลุม ขณะที่ในส่วนของการสำรวจพบก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยเชิญชวนบริษัทจากหลายประเทศมาทำสัมปาน แต่ยังติดขัดในส่วนของการขออนุญาตใช้ที่ดิน เนื่องจากเป็นพื้นที่ ส.ปก.
จากข้อมูลการสำรวจก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2514-ปัจจุบัน บนบก 14 หลุม 16 แปลง อ่าวไทย 20 หลุม 31 แปลง รวม 34 หลุม 47 แปลง พบแหล่งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร และจ.สุโขทัย
อย่างไรก็ตาม หลังจากรับฟังการบรรยายสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติและพลังงาน พร้อมชมกระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อมแล้ว คณะเครือข่ายปิโตรเลียมอีสาน ยังได้เดินทางไปศึกษาพลังงานไฟฟ้า ที่โรงไฟฟ้าเขื่อนน้ำลิก 1 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้้ำ เป็นพลังงานอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานไฟฟ้า นอกจากก๊าซธรรมชาติ