บุรีรัมย์- อิทธิพลแก๊งเงินกู้เชิดเอฟเวอร์เรทหนีวอน รมต นักเลงช่วยด้วย
บุรีรัมย์- อิทธิพลแก๊งเงินกู้เชิดเอฟเวอร์เรทหนีวอน รมต นักเลงช่วยด้วย
อำเภอลำปลายมาศ//สาววัย 40 ปี เอารถจำนำกับแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด 1 แสน หักดอก ค่าบริการเหลือเงิน 7 หมื่นไม่กี่วันขอไถ่รถคืนถูกปฏิเสธ พร้อมท้าให้แจ้งความบอกไม่กลัว”เคลียร์หมดแล้ว”วอน รมช.มหาดไทย สายนักเลง มาปราบตามที่เคยบอก”นักเลงปราบนักเลง”
วันที่ 26 ต.ค.66 น.ส.อุ้ย (นามสมมุติ)ชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เดินทางมาพบ ร.ต.อ.การุณ จันดอก รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ เพื่อต้องการเอาผิด นายเบนซ์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ปาน อายุ 26 ปี สองสามีภรรยา ฐานร่วมกันฉ้อโกง และคิดดอกเบี้ยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด
หลังจาก น.ส.อุ้ย ได้ขอไถ่รถยนต์แบบเอนกประสงค์ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่นเอฟเออร์เลท ที่เอาไปจำนำไว้กับนายเบนซ์และ น.ส.ปาน เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ถูกปฏิเสธการไถ่ถอน
น.ส.อุ้ย เล่าว่า ตนเองมีความจำเป็นจะใช้เงินด่วน จึงติดต่อนายเบนซ์ เพราะทราบว่ารับจำนำรถ เพื่อขอเอารถไปจำนำเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท โดยนายเบนซ์กับภรรยามารับรถถึงที่บ้าน หลังจากนั้นได้มีการแชทไลน์คุยกันกับ น.ส.ปาน แฟนนายเบนซ์ และได้รับข้อความแจ้งรายละเอียดจาก น.ส.ปาน ว่า
ยอดจำ 100,000 ค่าดอก 10,000 ค่าจอด 4,000 ค่าทำงาน 3,000ค่ารายวันเบียร์ 5,000 ค่ายืมหนู 5,000 ค่าน้ำมันรถพี่ 1,000 และค่ารถหนู 1,000 ยอดคงเหลือ 71,000 บาท จากที่ราคารับจำนำ 100,000 บาท รายละเอียดทั้งหมดตนไม่ว่า เพราะยืมเงินน้องจริง 5,000 บาท และค้างค่ารายวันอีก 5,000 บาทจริง
หลังจากเอาไปจำนำเมื่อวันที่ 19 ต.ค. วันที่ 24 ต.ต. หรือผ่านไปได้ 5 วัน ตนติดต่อนายเบนซ์ ขอไถ่รถคืนโดยจะจ่ายเงินจำนวน 100,000บาท คืนให้ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง อ้างโน้นนั่นนี่
สุดท้ายมาแจ้งว่า รถที่ตนเอาไปจำนำไปอยู่กับเสี่ยแซม(นายทุนเงินกู้รายใหญ่อยู่จังหวัดนครราชสีมา) ถ้าจะไถ่ต้องเอาเงินมาคืนกับหนี้ที่ติดเสี่ยแซม ที่ยังค้างไว้อีก 120,000 บาท รวมเป็นเงิน 220,000 บาท ตอนนั้นตกใจมาก เพราะแหล่งเงินทุนคนละที่กัน
น.ส.อุ้ย เล่าด้วยว่า ตนเองไปยืมเงินเสี่ยแซมจริง จำนวน 160,000 บาท เพราะเพื่อนให้กู้แทน โดยตกลงจ่ายเป็นรายวันวันละ 8,000 บาท จำนวน 24 วัน แต่วันรับเงินที่กู้กลับได้เงินมาเพียง 104,000 บาทเพราะหักค่าดอกและค่าธรรมเนียม แต่เพื่อนที่ให้กู้ให้ไม่ยอมส่งเงินรายวัน ตนจึงส่งแทนให้รวมที่จ่ายไปแล้ว 160,000 บาท สุดท้ายเสี่ยแซมบอกว่ายังค้างดอกอีก 120,000 บาท
สิ่งที่ตนประสบมา รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะรถที่ตนเอาไปจำนำ ไม่เกี่ยวกับเงินที่กู้ก่อนหน้านี้เพราะเป็นนายทุนคนละเจ้า แต่กลับมีการโยกเอารถตนไปรวมกับนายทุนอีกคน เหมือนจะเอารถของตนไปเป็นตัวประกันอีกเจ้าหนึ่ง
น.ส.อุ้ย กล่าวอีกว่า ตอนแรกไม่กล้ามาแจ้งความ เพราะแก๊งนี้ได้ขู่เอาไว้จะฆ่าทิ้ง และท้าให้ตนไปแจ้งความ อ้างว่า”เคลียร์กับตำรวจไว้หมดแล้ว” แต่เมื่อมานึกถึงคำพูดของ นายชาดา ไทยเศรษฐ รมช.กระทรวงมหาดไทย ที่เคยพูดเอาไว้ว่า ตนเป็นนักเลงได้มาเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และดูแลตำรวจ จะขันอาสาปราบนักเลงเอง จึงตัดสินใจมาแจ้งความ จึงอยากจะฝากถึง รมช.มหาดไทย ชาดา อยากให้มาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากนักเลง ว่าท่านจะสามารถปราบแก๊งนี้ได้หรือไม่ เพราะจากคำขู่ของกลุ่มนี้ รู้สึกว่า”เขาใหญ่จริง”
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน รู้ชื่อและที่อยู่ของนายเบนซ์และ น.ส.ปาน เรียบร้อยแล้ว เตรียมออกหมายเรียกและจะแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกง และคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทั้งนี้ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายหากผู้ถูกกล่าวหามาพบพนักงานสอบสวน//////////
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง จ.บุรีรัมย์ รายงาน