ผบช.สตม.บินด่วน ภูเก็ต ตรวจความพร้อมเจ้าหน้าที่สนามบิน ปล่อยแถวระดมทุกภาคส่วน เตรียมรับนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเที่ยวเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่

ผบช.สตม.บินด่วน ภูเก็ต ตรวจความพร้อมเจ้าหน้าที่สนามบิน ปล่อยแถวระดมทุกภาคส่วน เตรียมรับนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเที่ยวเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ มั่นใจแม้นักท่องเที่ยวเข้ามามาก สามารถอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ประทับใจ

วันนี้ (25 ธ.ค.66) เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจความพร้อมการปฏิบัติงานของ ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมให้นโยบายแก่ผู้ปฏิบัติงาน เน้นอำนวยความสะดวกภายในหลักความมั่นคง เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2567 นี้
พล.ต.ท.อิทธิพล ฯ กล่าวว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ เนื่องจาก ภูเก็ตเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักในภาคใต้ตอนบน ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ประกอบกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวบางประเทศ เช่น จีน อินเดีย ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของไทยดีขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต ยกตัวอย่างนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาสูงที่สุดช่วงเดือน ธ.ค.66 อันดับแรกคือ รัสเซีย เฉลี่ย 3,600 คนต่อวัน รองลงมา จีน วันละ 1,500 คน สหราชอาณาจักร เฉลี่ยวันละ 780 คน และอินเดีย 720 คนต่อวัน ตามลำดับ เฉลี่ยทั้งเดือนมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 350,000 ราย สตม.จึงต้องเตรียมความพร้อมรองรับการอำนวยความสะดวก ควบคู่ไปกับการคัดกรองกลุ่มคนต้องห้าม ไม่ให้แฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศได้ จึงต้องมีการประชุม กำชับ การปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง มีการเพิ่มกำลังในวันหยุดราชการ ระดมอุปกรณ์เครื่องมือ ยานพาหนะ เพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน
ต่อมาเวลา 15.00 น. ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6 ได้เดินทางไปตรวจความพร้อม และเป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมตรวจเอกซเรย์พื้นที่ป้องกันอาชญากรรม และอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ในห้วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2567 ณ ตม.จว.ภูเก็ต
ผบช.สตม.กล่าวต่อว่า วันนี้เราไม่ได้ทำงานลำพัง แต่เน้นการบูรณาการกำลังทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ตม. ตำรวจพื้นที่ ทหาร ฝ่ายปกครอง นอกจากนี้เรายังดึงชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยระยะยาว เช่น วีซ่าประเภท “ใช้ชีวิตบั้นปลาย, ประกอบธุรกิจ, ครู นักเรียน หรือ มีครอบครัวเป็นคนไทย” เข้ามาร่วมเป็นจิตอาสา ช่วยในการประชาสัมพันธ์ แจ้งเบาะแส แล้วช่วยในงานของ ตม.ด้วย
นอกจากนี้การเพิ่มศักยภาพการให้บริการ เช่น การต่อวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว สตม. ได้จัดทำโครงการ E-Extension Visa ซึ่งเป็นการให้บริการต่อวีซ่าผ่านระบบ internet โดยนักท่องเที่ยว สามารถยื่นเอกสาร และนัดวันเวลาก่อนนำหนังสือเดินทางเข้ามารับตราประทับอนุญาตต่อวีซ่า ซึ่งจะเป็นการลดขั้นตอน และระยะเวลาในการให้บริการได้อย่างมาก ปัจจุบันมีให้บริการอยู่ที่ บก.ตม.1 (กทม.), ตม.จว.ชลบุรี, ภูเก็ต, เชียงใหม่ โดยให้บริการ 12 ประเภทวีซ่า เช่น วีซ่าท่องเที่ยว ครู อาจารย์ เป็นต้น สำหรับในวันพรุ่งนี้ ตนจะเชิญประชุมสภากาแฟ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและปัญหาในการปฏิบัติงานจากหัวหน้าหน่วยงานราชการและภาคประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับงานของ ตม. ซึ่งจะทำให้รับรู้ถึงปัญหาและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว