22/11/2024

ขอนแก่น-ระทึกรับอรุณเพลิงโหมไหม้แฟลตตำรวจวอด 9 คูหา

เกิดเหตุเพลิงโหมไหม้แฟลตห้องพักตำรวจหลังศาลากลางขอนแก่น วอดรับอรุณ 9 คูหา ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เร่งสกัดควบคุมไม่ให้ลุกลาม หลังเพลิงสงบเร่งตรวจสอบ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 11 ม.ค.2567 พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ขณะออกตรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบตามปกติ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ “แก่นนคร 191” สภ.เมืองขอนแก่น ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารบ้านพักตำรวจ บริเวณด้านหลังศาลากลาง จ.ขอนแก่น และสนามยิงปืนตำรวจภูธรภาค 4 หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครขอนแก่น เข้าสกัดและควบคุมเพลิง ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมกับ พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบข.ภ.4,พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมาก


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารบ้านพักข้าราชการตำรวจสังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งเป็นอาคารไม้ 2 ชั้นสร้างติดกันเป็นแถว โดยเจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงทั้งหมด 6 คันทำการสกัดและควบคุมเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำลุกไหม้อย่างรุนแรง พร้อมทั้งเร่งขนย้ายสิ่งของและอพยพครอบครัวตำรวจที่พักอาศัยภายในบ้านพักทั้งหมดออกมาไว้ในจุดที่ปลอดภัย โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ


พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าบ้านที่เกิดเหตุต้นเพลิงนั้น บ้านเลขที่ 192/186 เป็นบ้านพักที่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคืนห้องพักให้กับ บช.ภ.4 ไปนานแล้ว โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะลามไปยังบ้านที่อยู่ติดกันทำให้มีครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้จำนวน 9 ครอบครัว ส่วนสาเหตุนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


“ในช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโพศัย ผบช.ภ.4 และชมรมแม่บ้านตำรวจรวมทั้งเพื่อนข้าราชการตำรวจ จะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวตำรวจ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ และเตรียมจัดหาบ้านพักให้กับทั้ง 9 ครอบครัว โดยขณะนี้พบว่ามีบ้านพักข้าราชการตำรวจในส่วนอื่นรองรับเพียงพอกับทั้ง 9 ครอบครัว ส่วนมูลค่าความเสียหายและต้นเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้จะมีการสอบสวนต่อไป”

ข่าวที่น่าติดตาม