แม่ฮ่องสอน-จับจริง ลักลอบลอบเผา ลุกลามนอกแนวเขตทำกิน เผยเร่งชิงเผาก่อน 1 มี.ค แต่ไม่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตามระบบ
แม่ฮ่องสอน-จับจริง ลักลอบลอบเผา ลุกลามนอกแนวเขตทำกิน เผยเร่งชิงเผาก่อน 1 มี.ค แต่ไม่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตามระบบ
เจ้าหน้ารวบผู้ลักลอบเผาป่าได้คาหนังคาเขา ขณะลาดตระเวนและใช้โดรนสำรวจทางอากาศพบการลักลอบเผาป่าเป็นบริเวณกว้าง รวบชาวบ้านกำลังเผาอย่างชัดเจนนำตัวส่งดำเนินคดีในข้อหาหนักทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 (กก.ปพ.บก.สส.ภ.5) (เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธร ภาค 5) โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ที่นำโดย ร้อยตำรวจเอกจิรายุ อิ่นแก้ว พร้อมกำลังที่ได้ลาดตระเวนป้องกันการกระทำผิดในช่วงของการป้องกันการเผาป่าและสร้างมลพิษ มาถึงป่าข้างทางหลวงแผ่นดิน 1266 (สวนลุงแม) ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย แปลง 2 หมู่ 3 บ้านห้วยหมากหนุน ต.ท่าผาปุ้ม อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน พบเห็นกลุ่มควันไฟจำนวนมากจึงได้ทำการบินสำรวจด้วยโดรน จนพบว่ามีชาวบ้านรายหนึ่งกำลังเผาพื้นที่และลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียงด้วย จึงได้แจ้งไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลท่าผาปุ้ม เพื่อขอรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุและได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรแม่ลาน้อยและเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ มส.4 (แม่ลาน้อย) เข้าดำเนินการจับกุมนายศุภชัย (นามสมมุติ)อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 3 ต.ท่าผาปุ้ม อ.แม่ลาน้อย จว.แม่ฮ่องสอน พร้อมตรวจพบไฟแช๊ค 1 อันที่กระเป๋ากางเกง ซึ่งในการนี้นายศุภชัยฯ รับว่า
“เมื่อ วท. 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้จุดไฟเผาป่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นที่ทำกินเดิมของตนเองและพื้นที่บางส่วนได้แผ้วถางป่าเพิ่มเติมและตัดต้นไม้ยืนต้นซึ่งขึ้นอยู่ในป่าโดยกำเนิดบางต้น และ ทำการชิงเผาป่าก่อนที่จะมีประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่องห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ซึ่งตนทราบว่าจะมีประกาศในเรื่องนี้ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567
ซึ่งการเผ่าป่าบางส่วนของนายศุภชัยฯ ในครั้งนี้ไฟได้ไหม้ป่าลุกลามออกไปนอกแนวเขตพื้นที่ทำกินของนายศุภชัยฯ ในการนี้นายศุภชัยฯ ยอมรับว่าตนไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ทราบแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ญาติของนายศุภชัยฯ ทราบและให้แจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.ท่าผาปุ้ม ท้องที่เกิดเหตุทราบเพื่อนำรถน้ำมาดับไฟไหม้ป่าดังกล่าวแล้ว แม้ว่าทางญาติจะพยายาสนำเอกสารที่ดินที่ทาง อบต.ท่าผาปุ้มออกให้มายืนยันกรรมสิทธิ์ แต่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า อปท.ไม่มีสิทธิ์ในการออกเอกสารสิทธิ์ใดๆ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ จากนั้นจึงได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีในฐานความผิดก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 15 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
สำหรับพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น ยังคงพบพื้นที่ป่าที่ถูกบุกกระจายเป็นวงกว้างในทุกอำเภอ โดยส่วนมากจะอาศัยการดำเนินการและลอบขยายพื้นที่ในช่วงหน้าแล้งที่เกิดไฟป่าลุกลามเป็นปัจจัยเสริมให้การบุกรุกง่ายขึ้น ซึ่งจะพบว่ามีพื้นที่ที่ถูกบุกที่แม้จะเป็นภูเขาสูงชัน ถูกแผ้วถางจนกลายเป็นดอยหัวโล้นจำนวนมาก ในขณะที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ประกาศห้ามเผาในช่วง 61 วัน นับจากวันที่ 1 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เนื่องจากพบว่าสถานการณ์ของการลักลอบเผาป่า ก่อให้เกิดหมอกควันเริ่มมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น
สุกัลยา บัวงาม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 0819503127