บึงกาฬ “บิ๊กทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงยึดยาบ้าบิ๊กล็อตขนข้ามโขง 6 ล้านเม็ด มูลค่าราว 180 ล้านบาท
บึงกาฬ “บิ๊กทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงยึดยาบ้าบิ๊กล็อตขนข้ามโขง 6 ล้านเม็ด มูลค่าราว 180 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานแถลงข่าว การตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ จำนวน 15 กระสอบ (6,000,000 เม็ด) และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว้ สีขาว จำนวน 1 คัน โดยมี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 , พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพน้อยที่ 2, พลตรี นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 , นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ , พลตำรวจตรี วิญญู อำนวยสมบัติ ,นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ปปส.ภ.4 , พันเอก วีระวัฒน์ เท้าพิมพ์ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พันเอก สุภัทร ชูตินันทน์ รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , นาวาเอกนัฐพัฒน์ ซื่อมงคล รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง , พันเอก สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 และตำรวจ สภ.บุ่งคล้า นรข.สถานีเรือบ้านแพง ตชด.244 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ให้การต้อนรับและร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
สืบเนื่องจากวันที่ 25 ต่อเนื่องวันที่ 26 ก.พ.เวลาประมาณ 19.00 น. กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 และตำรวจ สภ.บุ่งคล้า ได้รับข่าวสารจากการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไม่ทราบจำนวน ข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่บ้านดอนใหญ่ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ เพื่อลำเลียงขนส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงบูรณากำลังวางแผนร่วมกับกำลังในพื้นที่ ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ บริเวณท่าทรายเก่าริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเพ่งเล็งตามที่รับแจ้ง ครั้นเมื่อเวลา 20.20 น. จึงตรวจพบรถยนต์กระบะสีขาวขับขึ้นมาจากริมแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการขอตรวจค้น เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้เร่งเครื่องรถยนต์หลบหนี ขณะนั้นทีมนำทางของกลุ่มผู้ต้องหา ยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนท.จึงยิงตอบโต้ไปหลายนัด และกระสุนถูกไปที่ท้ายรถยนต์ด้านหลังฝั่งซ้ายจำนวน 1 นัด จากนั้นคนขับได้จอดรถยนต์ทิ้งไว้และอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปไปพร้อมทีมนำทาง
เมื่อเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจพบสิ่งของต้องสงสัย จำนวน 15 กระสอบ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นยาบ้า บรรจุอยู่ภายใน (ประมาณ 6,000,000 เม็ด หากเม็ดละ 30 บาท จะรวมมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท) จึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดและรถยนต์กระบะ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้ามาเก็บรอยนิ้วมือแฝง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบหลักฐานบัตรประชาชนของนายกฤษฎา อายุ 38 ปี และเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว และอุปกรณ์เสพยาบ้า ขวดเบียร์ ขวดน้ำดื่ม จึงเก็บตัวอย่าง DNA ส่งไปตรวจ เพื่อขออนุมัติจากศาลออกหมายจับต่อไป หลังเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน จนท.ได้นำของกลางทั้งหมด มาตรวจนับที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2108
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า โดยที่ผ่านมา กองทัพบก, กองทัพภาคที่ 2 และ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ยึดถือตามกรอบ แนวคิดของรัฐบาล ที่ว่า แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด การลดจำนวนผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่ และให้ความรู้เยาวชนถึงภัยยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้บูรณาการกำลังป้องกันชายแดน และทุกส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมกันสกัดกั้น ป้องกันและปราบปราม การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน จนเกิดผลสัมฤทธิ์สามารถจับกุมตรวจยึดในกรณีสำคัญหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว สุดท้ายขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ เพราะหากท่านที่เป็นผู้ดูแลและอยู่ในพื้นที่ไม่แจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ ก็คงจะรู้ได้ยาก อีกทั้งขอขอบคุณ ผู้สื่อข่าวทุกท่านที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อไป
เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259-777