เชียงใหม่-เลขาฯ รมว.สาธารณสุข ติดตามสถานการณ์ไฟป่า และผลกระทบ pm2.5 ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในเขตสุขภาพที่1
เชียงใหม่-เลขาฯ รมว.สาธารณสุข ติดตามสถานการณ์ไฟป่า และผลกระทบ pm2.5 ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในเขตสุขภาพที่1
วันที่ 10 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น.นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขานุการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง นายสุรชาติ เทียนทอง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และผลกระทบด้านสุขภาพจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก จังหวัดเชียงใหม่ ในครั้งนี้ ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 มอบหมายให้ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พญ.นงนุช ภัทรอนันตนพ ผู้ช่วยอธิบดีกรมอนามัย และผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ และคณะ และ พญ.เสาวนีย์ วิบูลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันความคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมและมอบสิ่งของสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมไฟป่า อาสาสมัคร และประชาชน ณ ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
นายสุรชาติ เทียนทอง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์ PM2.5 อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ในจังหวัดภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่องใน 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก โดยสถานการณ์มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดเท่ากับ 199.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ข้อมูลวันที่ 9 มีนาคม 2567) เนื่องมาจากสภาพอุตุนิยมวิทยาประกอบกับพบจุดความร้อนในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยจากการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการรับสัมผัสมลพิษทางอากาศ พบมีแนวโน้ม การกำเริบของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคเยื่อบุตาขาวอักเสบ ที่เพิ่มขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายดำเนินงาน 4 มาตรการ 10 กิจกรรม ได้แก่ ส่งเสริมการลดมลพิษทางอากาศ สื่อสารสร้างความรอบรู้ สร้างความเข้มแข็งของชุมชนและประชาชน ผ่านทุกช่องทาง จำนวน 29,736 ครั้ง ส่งเสริมองค์กรลดมลพิษ Green energy (รถยนต์ไฟฟ้า/พื้นที่สีเขียว/ลดขยะ) ลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ เฝ้าระวังสถานการณ์และแจ้งเตือนความเสี่ยงต่อสุขภาพ เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพและรายงานผลกระทบด้านสุขภาพจากภาวะหมอกควันโดยเฉพาะ 4 กลุ่มโรคสำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคเยื่อบุตาขาวอักเสบ โดยใช้ฐานข้อมูล smog-epinort
จัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นของเขตสุขภาพที่ 1 ทั้งสิ้น 2,095 แห่ง และห้องปลอดฝุ่นสำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 1,115 แห่งให้ความรู้เพื่อเป็นการป้องกันตนเองโดยแนะนำวิธีทำห้องปลอดฝุ่นหรืออาจใช้มุ้งสู้ฝุ่นเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่น ให้บริการคลินิกมลพิษ 37 แห่งและคลินิกมลพิษออนไลน์ 48 แห่ง ลงพื้นที่บริการเชิงรุกเพื่อดูแลประชาชน รวมทั้งสิ้น 43,954 ครั้ง สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลแก่กลุ่มเสี่ยงโดยมีหน้ากาก คงคลังของเขตสุขภาพที่ 1 จำนวน 748,346 ชิ้น หน้ากาก N95 จำนวน 110,629 ชิ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Public health emergency operation center: PHEOC) เมื่อค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดของจังหวัด โดยอ้างอิงจากสถานี Air4Thai เท่ากับ 37.5 ติดต่อกัน 3 วัน หรือ มากกว่า 37.6 มคก. /ลบ.ม. 1 จุดตรวจขึ้นไป ปัจจุบันได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแล้วทุกจังหวัด ส่งเสริมและขับเคลื่อนกฎหมาย พรบ. การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พรบ. โรคจากการประกอบอาชีพและโรคสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562
นายสุรชาติ กล่าวย้ำเตือน ขอให้ประชาชนตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ที่ Application Air4Thai หรือ Life Dee และปฏิบัติตนตามระดับสีค่าฝุ่นสูง ดังนี้ สีเหลือง ระดับปานกลาง (25.1 – 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) เลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก สังเกตอาการตนเอง สีส้ม (37.6 – 75.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) และ สีแดง (75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขึ้นไป)ควรลดเวลาการทำกิจกรรมนอกบ้าน ถ้าออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และสังเกตตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ และผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยอาจะใช้ หน้ากาก N95 ต้องเลือกที่มีขนาดเหมาะ แนบกระชับกับใบหน้า ครอบจมูกและใต้คางได้อย่างมิดชิด หรือหน้ากากอนามัย
เลี่ยงการไปในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง หรือลดระยะการอยู่นอกอาคาร
ปิดประตูหน้า หน้าต่างให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาด และอยู่ในห้องปลอดฝุ่น ลดกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดฝุ่น
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมาใช้บริการห้องปลอดฝุ่น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้หน่วยบริการสาธารณสุขจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นให้บริการเพื่อลดโอกาสรับสัมผัสมลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 สนับสนุนให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานศึกษาและสถานที่เอกชนจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นร่วมด้วย
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ หรือ ค้นหาห้องปลอดฝุ่นใกล้บ้าน ได้ที่เวปไซต์ห้องปลอดฝุ่น https://podfoon.anamai.moph.go.th
นภาพร/เชียงใหม่