23/11/2024

สืบนครบาล ตามรวบใหญ่บางเขน เจ้าของเพจขายรถมือสอง นำรถที่ยังติดไฟแนนซ์มาขายให้ผู้เสียหาย

สืบนครบาล ตามรวบใหญ่บางเขน เจ้าของเพจขายรถมือสอง นำรถที่ยังติดไฟแนนซ์มาขายให้ผู้เสียหาย
.

 

จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการฉ้อโกลหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์
.


โดยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 2ได้ร่วมกันจับกุมตัว
น.ส.ศศรินทร์ หรือใหญ่ อายุ 34 ภูมิลำเนา ถ. พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. บุคคลตามหมายจับศาลอาญามีบุรี ที่ 660/2566 ลง 28 มิ.ย.2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ”
จับกุมได้ที่บริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.

. พฤติการณ์ในคดี ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ติดต่อทางแอปพลิเคชั่นไลน์กับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาใช้ไลน์ชื่อ Rin Ben ซึ่งเป็นพนักงานขายรถยนต์(เซลล์)ได้เสนอขายรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ Cls 250 ปี2012 ดีเซล ราดา 1,259,000 บาท ผู้เสียหายได้ตกลงซื้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565 ผู้ต้องหานัดหมายให้ผู้เสียหายไปทำสัญญาซื้อขายรถที่ศุนย์อาหารแถววัชรพล ตกลงกันโดยผู้เสียหายได้มอบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่น S300 ราดา 80.,000 บาท คงค้างชำระอีกจำนวน 450,000 บาท และผู้ต้องหาได้มอบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์รุ่น CIs 250 ปี 2012 ให้กับผู้เสียหาย ต่อมาผู้เสียหายได้ชำระส่วนที่เหลือให้ผู้ต้องหาโดยการโอน
เข้าบัญชีผู้ต้องหาจำนวน 3 ครั้ง รวมจำนวน 200,000 บาท คงเหลือค้างชำระอีกจำนวน 250,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายจะชำระให้แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อกับ ชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว จึงทราบว่ารถยนต์ดันดังกล่าวยังค้างค่างวดกับธนาคาร เป็นเงิน 1,209,438.23 บาท จึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวง และได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน


.
จากการตรวจสอบประวัติจากฐานข้อมูลระบบ พบผู้ต้องหาเคยมีคดีดังนี้
1. ปี 2564 คดีฉ้อโกง ของ สภ.บางบัวทอง
2. ปี 2565 คดีพรบ.เช็ค เจตนาที่จะไม่มีให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ของ สน.วังทองหลาง
3. ปี 2566 คดีฉ้อโกง ของ สน.คันนายาว (ในคดีที่ถูกจับนี้)
.
จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน. คันนายาว เพื่อเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


.
พล.ต.ต.ธีรเดช ขอฝากเตือนภัยไปยังประชาชน หากซื้อรถมือสองโดยไม่ทราบที่มา หรือรถที่มีการประกาศขายลักษณะเป็นการโอนลอย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นรถหนีไฟแนนซ์ หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา ซึ่งผู้ซื้อรถมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีความผิดทางอาญาข้อหายักยอกทรัพย์หรือรับของโจร วิธีที่ง่ายและถูกต้องตามกฎหมาย ควรซื้อรถจากเจ้าของโดยตรง แล้วโอนกรรมสิทธิ์ชื่อครอบครองเป็นของตนให้ถูกต้อง

ข่าวที่น่าติดตาม