บุรีรัมย์-วัดพุทธบูชา โคกปราสาทจัดพิธีพุทธาภิเษก “ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช”เข้มขลัง ยิ่งใหญ่
บุรีรัมย์-วัดพุทธบูชา โคกปราสาทจัดพิธีพุทธาภิเษก “ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช”เข้มขลัง ยิ่งใหญ่ มีสาธุชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่งสาธุชนกว่า 500 คน แห่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกศักดิ์สิทธิ์”ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช”เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567ที่ผ่านมาที่วัดพุทธบูชาป่าโคกประสาท ตำบล หนองปล่องอำเภอ ชำนิ จังหวัด บุรีรัมย์ พระครูปลัดวิชาญ ธัมมะโซโต เจ้าอาวาสวัด) จัดพิธีพุทธาภิเษก “ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช” โดยมี คุณ โกสินธ์ จินาอ่อน คุณ จุฬาลักษณ์ สยมชัย ประธาน ดำเนินการสร้างถวาย โดยมี นายโชคไชย สว่างรัตน์ นายอำเภอชำนิ ร่วมเป็นประธานเปิดธูปเทียนแพ เบิกเนตรท้าวเวสสุวรรณจันทราพร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ผู้มีความศรัทธาในครูบาอาจารย์ นาย ธนโชติ ธนะกิจมงคลกุลเป็นเจ้าภาพนำลิเก มาเล่นถวายท้าวเวสสุวรรณจันทราพร้อมด้วยร้านสมพรการยางนำภาพยนตร์มาฉาย 2 จอในคืนเดียวกันด้วยความศรัทธาในองค์ปู่เวชสุวรรณจันทรา
ในพิธีทางวัด ตั้งเครื่องบวงสรวงเทพเทวดาพร้อมพ่อพราหมณ์ สิทธิพันธ์ กล่อมเกลี้ยง กล่าวโองการ จากนั้นได้ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยพระเกจิ 5 รูป อธิษฐานจิต 4 ทิศ ประกอบด้วย พระครู ธวัชปรียาจารย์
พระครสังฆการปรีชา ศิษย์หลวงปู่หงษ์
พระครูภาวนาสุตตาภิรมย์ศิษย์หลวงปู่ฤทธิ์
พระครูปลัดวิชาญ ธรรมโชโต ศิษย์หลวงปู่เอี่ยม
พระครูปลัดธรรมทัต ศิษย์หลวงปู่เหมือนประสาทพร
พระครูปลัดวิชาญ ธัมมะโซโต เจ้าอาวาสวัด(กล่าวว่า) ประวัติตำนานท้าวเวสสุวรรณ
ตามตำนานทางพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในอดีตชาติ ท้าวเวสสุวรรณ เคยเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย ด้วยความใจบุญจึงได้นำเงินทองไปบริจาคให้ผู้ยากไร้ และด้วยกุศลผลบุญที่ ท้าวเวสสุวรรณ บำเพ็ญมานับหลายพันปี พระพรหม และ พระอิศวร จึงให้พรแก่ ท้าวเวสสุวรรณ ให้เป็นอมตะ และเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมนำรูป ท้าวเวสสุวรรณ ไว้เคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกหนึ่งประการ ตรงตามความหมายของชื่อ “ท้าวเวสสุวรรณ” คือ คำว่า “เวส” แปลว่า พ่อค้า จึงหมายถึงพ่อค้าอันมีทรัพย์ ได้แก่ ทองคำ
นอกจากนี้อีกหนึ่งตำนานในพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่า ในชาติหนึ่ง ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งเดิมชื่อ กุเวรพราหมณ์ ได้ทำบุญกุศลมาก จนชาติต่อมา ได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์ พระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร และทรงเป็นพระสหายกับเจ้าชายสิทธัตถะ ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร จนบรรลุเป็นโสดาบัน และได้ถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร ให้พระพุทธเจ้าได้เข้าประทับ จึงเป็นอานิสงส์ให้ได้วิมานอันสวยงาม และการที่พระเจ้าพิมพิสารถวายทานบ่อย ๆ จึงเป็นปัจจัยให้มีทิพยสมบัติมากมาย เมื่อได้เป็นเทวดาก็ทรงมีอำนาจมาก
ท้าวเวสสุวรรณทั้งสององค์นี้ประทับอยู่ ณ.บัลลังก์วัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท มี2กาย2องค์หน้าเทพสีทองและกายองค์ยักษ์สีแก้วมรกต
ด้วยความเชื่อที่ประสบผลสำเร็จในการอธิษฐานท้าวเวสสุวรรณจันทรากายทองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า.พระคุณ.เชื่อว่าบุคคลใดใครก็ตามที่จะอธิษฐานเรื่องเกี่ยวกับการค้าขายมหานิยมทำมาค้าขายนายหน้าที่ดินอื่นๆติดต่อการงาน.จะสำเร็จผลสมปรารถนา กายที่ 2 สีแก้วมรกตท้าวเวสสุวรรณจันทรา(พระเดช) อธิษฐานว่าบุคคลใดใครก็ตามมีเรื่องเกี่ยวกับคดีขึ้นโรงขึ้นศาลเมื่อมาขอพรท่านแล้วจะสัมฤทธิ์ผลไปทางที่ดีเสมอไป