ปทุมธานีมาแล้ว แม่จูงลูกสมัคร อบจ. เสื้อหลากสีจับมือช่วยบิ๊กแจ็ส เบอร์ 3 สานงานต่ออีกสมัย
ปทุมธานีมาแล้ว แม่จูงลูกสมัคร อบจ. เสื้อหลากสีจับมือช่วยบิ๊กแจ็ส เบอร์ 3 สานงานต่ออีกสมัย
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ชั้น 5 องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดปทุมานี ได้เดินทางมาลงสมัครชิงตำแหน่งนายกอบจ.ปทุมธานี ในวันที่สองของการสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 และก็กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2567
บรรยากาศในการรับสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี มีนายยุทธนา แสงพงศานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้ง มีนายชาญ พวงเพชร์ อดีตนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดปทุมานี 3 สมัย มาลงชื่อเข้าสมัครเป็นคนแรก ถือเป็นเบอร์ 1 ส่วนนายอธิวัฒน์ สอนเนย ผู้สมัครหมายเลข 2 และในวันนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดปทุมานี ได้เดินทางมาพร้อมกับคุณแม่จงกล ธูปกระจ่าง ได้กราบสักการะพระปทุมธรรมราชและศาลหลักเมืองจังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นสิริมงคล และได้เดินทางมาสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ทามกลางประชาชนหลายภาคส่วน ทั้งเสื้อส้มเสื้อแดงและผู้พิการวีลแชร์ ร่วมกว่า 300 คนสามัคคีมอบพวงมาลัยดอกไม้เป็นกำลังใจให้บิ๊กแจ๊สหลังได้เบอร์ 3 เป็นเลขประจำตัวผู้สมัครสานงานต่ออีกสมัย จากนั้นขึ้นรถแห่หาเสียงทันที
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี เบอร์ 3 กล่าวว่า ที่มาสมัครในวันนี้เนื่องจากคุณแม่ผมบอกให้มาวันนี้ เมื่อมาแล้วก็เกิดเรื่ออัศจรรย์อีก เมื่อเขียนใบสมัครเสร็จเจ้าหน้าที่แจ้งเวลาสมัครเสร็จ 11.22 น. สำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์เพราะว่าแหวนที่ผมใส่เป็นแหวนหลวงปู่เส็งวัดบางนา ก็มีเลข 22 ตรงกับวันเกิดผมวันที่ 22 ถือเป็นเลขมงคล ผมยืนยังว่าชีวิตที่เหลือเพื่อปทุมธานี ไม่ได้มีจุดประสงค์อย่างอื่น อยากจะให้โครงการที่ทำไว้มีความต่อเนื่อง หลายสิ่งหลายอย่างที่เราต่อสู้กันมา 3 ปี 3 เดือน ที่ทำงาน ทุกอย่างมีการวางแผนเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ หากปล่อยให้เหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนประสบภัย สิ่งที่ทำที่ผ่านมาถือเป็นการเยี่ยวยา เป็นการป้องกัน เช่น ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ใครไม่เคยเจอน้ำท่วมไม่รู้หรอก ในปี 54 น้ำท่วมใหญ่พี่น้องชาวปทุมธานีเดือดร้อนเยอะ ในปี 64,65,66 เราก็วางแผน ถึงแม้น้ำจะมาแค่ไหนเราก็ผ่านพ้นมาได้ แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงพี่น้องประชาชนมากคือโรคระบาด เราอย่าประมาท ผมได้สู้กับโรคระบาดมา เราได้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 มาด้วยกัน พี่น้องประชาชนชาวปทุมธานีเสียชีวิตกันมาก เผาศพจนเมรุระเบิด แต่เราก็ผ่านพ้นมาได้ เป็นการเอาวัคซีนซิโนฟาร์มมาฉีดให้ แต่การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ อย่าประมาท เพราะข้อมูลทางสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีมีการระบาดเป็นอันดับ 1 จึงฝากความห่วงใยไว้ วันนี้ผมเข้ามาสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.เพื่อสานงานต่อ ฝากพี่น้องประชาชนข้อให้ไว้ใจผม เราจะใช้สโลแกนในการหาสียงครั้งนี้ว่า “NEXTปทุมธานี” ปทุมธานีต้องไปต่อ และต้องไปต่อกับผมคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ชีวิตที่เหลือเพื่อปทุมธานีครับ
สำหรับประวัติ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2497 สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 30 ในปี พ.ศ.2520 มีผลงานปราบปรามคดีโด่งดังมากมายเช่นคดีลูกชายกระทิงแดง ที่แสดงภาพของตำรวจ น้ำดีไม่เกรงกลัวต่อที่พ่นยืนหยัดเคียงข้างลูกน้อง ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเกษียณอุทิศตัวผันมาตนเองมาเป็นหมอพื้นบ้านรักษาผู้ป่วยฟรีด้านการแพทย์แผนไทย ที่มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่างตามระเบียบกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกว่าด้วยการออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้านและ ได้สร้างโครงการปลูกฝังเยาวชน ให้เข้าร่วมโครงการลูกปทุมต้านโกงเพื่อสร้างคนดีโดยพาเด็กนักเรียนทั้งจังหวัดไปศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ต้านโกงปลูกฝังเยาวชนให้เป็นคนดี ต่อมาได้ผู้อำนวยการโรงเรียนจำนวนมาก ร่วมกัน มาขอให้ลงสมัครเลือกตั้ง อบจ.ปทุมธานี และลงคะแนนเสียงในวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ได้คะแนนเสียงจากประชาชน 252,499 คะแนน ส่วนนายชาญ พวงเพ็ชร์ 222,211 คะแนน
เมื่อรับตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ได้ทำผลงานมากมาย ภายใต้วิสัยทัศน์ “พลิกโฉมปทุมธานี สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะที่มั่นคงและปลอดภัย ก้าวไกลเศรษฐกิจ บนวีถีชีวิตใหม่ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทย” พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาสังคม การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้านสาธารณสุขและการกีฬา ด้านการเมือง และที่เห็นชัดที่สุดคือ นำร่องจังหวัดแรกนำวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน และทำโรงพยาบาลสนาม ในช่วงโรคโควิดระบาดหนักส่งผลให้ปทุมธานีเป็นจังหวัด ต้นแบบในการ แก้ไขปัญหาโรคระบาดอย่างได้ผลครบวงจรที่สุด รวมถึงวางแผนงบประมาณการสร้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพให้มีการบริการประชาชนครบวงจร ทั่วจังหวัดปทุมธานี ซึ่งอนุมัติงบก่อสร้างไปแล้วบางแห่ง ผุดเมกกะโปรเจครถโมเดลเร็วแก้ปัญหารถติด พร้อมสร้างความเจริญควบคู่กันไป โครงการศูนย์รักษาพยาบาลและรับเลี้ยงสุนัขและแมวที่ถูกทอดทิ้งได้เริ่มโครงการแล้วโดยใช้สถานที่ของเทศบาลนครรังสิตในคลอง 12 แบบครบวงจร ผลงานสู้ภัยแล้งเพื่อเกตรกรชาวสวนชาวนา ป้องกันถนนทรุดถนนพัง ดำเนินการบริการแก้ไขต่อเนื่อง เกษตรกรไม่ต้องรวบรวมเงินกันเพื่อซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำเหมือนอดีตที่ผ่านมา การป้องกันน้ำท่วม สามารถป้องกันน้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานีได้ถึงสามปีแม้นปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าระดับปี 54 ที่น้ำท่วมหนักสุดของปทุมธานี และขุดลอกคูคลอง ปรับปรุงภูมิทัศสองฝั่งคลอง โครงการคลองสวยน้ำใส และเป็นจังหวัดผู้นำ ด้านการศึกษาส่งเสริมการศึกษาให้โรงเรียนทั่วจังหวัดมีมาตรฐานมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมพัฒนาโรงเรียนเด็กพิเศษ ให้มีทุกอำเภอ
ล่าสุดแสดงวิสัยทัศน์ต่อเนื่องงานบริการระบบสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่โดยการการนำวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ก่อนจะตัดสินใจลาออกก่อนวาระเนื่องจากเป็นห่วงประชาชนจะได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นภาระที่ต้องดูแลประชาชนหากช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ก็ลาออกดีกว่า อีกทั่งจากสภาพการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโลกคือเอลนีโญ โดยประสบการณ์ที่ป้องกันน้ำท่วมมาแล้วหลายปี พร้อมทั้งประสานร่วมกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาคำนวณแล้วว่า ฤดูน้ำหลากปีนี้จะมีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา
อีกทั้งจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สูงสุดจังหวัดหนึ่ง รวมถึงโรคโควิดที่อาจจะกลับมาระบาดรุนแรงได้อีก ส่วนที่สำคัญคือเรื่องงานพระราชพิธี งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในการจัดแข่งเรือยาวประเพณี ที่เป็นประเพณีของ จ.ปทุมธานี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 10 พระราชทานถ้วยรางวัลถึง 3 ถ้วย สมเด็จพระราชินีอีก 1 ถ้วย เราจัดมาแล้ว 2 ปี กำหนดไว้วันที่ 5 ธ.ค.จะต้องจัดให้ต่อเนื่อง แต่ทุกอย่างมาติดเงื่อนไขกฎหมายการเลือกตั้งก่อนหกเดือน ซึ่งเบิกจ่ายอะไรไม่ได้ และอาจถูกร้องเรียน 157 ได้อีกในอนาคต โครงการต่าง ๆ จะสำเร็จได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะไว้วางใจให้กลับมารับตำแหน่งอีกครั้งหรือไม่.
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน