กาฬสินธุ์-ยุติปัญหา 7 ชั่วโคตร ผู้ว่าฯนำทีม โยธา-อบจ.-แขวงทางหลวง ลุยเปิดทางระบายน้ำชุมชนเมือง คาดเสร็จภายใน 1 วัน รองรับ ลานีญ่า
3 หน่วยหลัก โยธาฯ-แขวงทางหลวง-อบจ. นำแบ็คโฮลุยเปิดทางน้ำ 700 เมตร ผงะน้ำเน่าขังปลดล็อกทรมาน 7 ชั่วโคตร 5 ปีเต็ม ด้านชาวบ้าน ผู้ประกอบการเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ช่วยยุติปัญหา พร้อมตั้งตารอผู้รับจ้างรายใหม่ ด้านเครือข่ายภาคประชาสังคมฯ ลั่นยังเกาะติด อีก 2 โครงการที่เหลือ มั่นใจผู้รับจ้างรายใหม่จะได้ หจก.ที่มีความพร้อม สะกิด กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง รีบสร้างความชัดเจนประกาศ ขาใหญ่เป็นผู้รับจ้างทิ้งงานซะที
วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนพร้อมพรรณอุทิศ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดที่ 6 ของโครงการก่อสร้างระบบป้องกันปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ งบ 148 ล้านบาท องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานโยธาธิการจังหวัด แขวงทางหลวงจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำรถแบ็คโฮ เข้าขุดทางระบายน้ำ ในจุดทิ้งงาน 7 ชั่วโคตร พร้อมนำป้ายเตือนจราจร เข้าจำกัดความเร็ว ที่คาดว่าตลอดทั้งวันนี้ระยะทางการขุดลอก 700 เมตร จะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ
โดยมี นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานเครือข่ายภาคประชาสังคม ป.ป.ท.เขต 4 ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะธรรมาภิบาลจ.กาฬสินธุ์ นายณฐกฤษณ์ โพธิ์ศรี สถาปนิกชำนาญการ จ.กาฬสินธุ์ และนายปรัชญา ดวงจอมดี นายช่างอาวุโส สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบจ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันติดตาม การแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง การแก้ไขปัญหาจราจร และแก้ไขปัญหามลพิษ ให้ครบทั้ง 6 จุดในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์
นายณฐกฤษณ์ โพธิศรี สถาปนิกชำนาญการ สำนักงานโยธาฯ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างระบบป้องกันปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ทั้งหมด 6 จุด ประกอบด้วย จุดเริ่มต้นถนนกรมโยธาฯถึงแก่งดอนกลาง, จุดสี่แยกป่าไม้ถึงการประปาส่วนภูมิภาค, จุดซอยวิโรจน์รัตน์ถึงทางหลวง 213, จุดวงเวียนโปงลางถึงซอยฉายจรุง, จุดโรงเรียนอนุกูลนารีถึงถนนถีนานนท์ และจุดตรงข้ามห้างโลตัส (ถนนพร้อมพรรณ)ถึงลำน้ำปาว ซึ่งทุกจุด พบการก่อสร้างล่าช้า โดยสัญญาเริ่มตั้งแต่ 19 เม.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 21 พ.ย.65 (สิ้นสุดค่าปรับร้อยละ 0 ถึงวันที่ 25 ก.พ. 68
เนื่องจากผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ จำนวน 513 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.64 ถึงวันที่ 21 พ.ย.65 ตามสัญญาแก้ไขลงวันที่ 12 พ.ค.66 และได้สิทธิ์ค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 25 ก.พ.68 ตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม วันที่ 28 ส.ค.66) หลังจากนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยนายวิจิตร งามชื่น โยธาฯ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้ติดอบรมที่ กทม.ได้มอบหมายให้ตนและนายณฐกฤษณ์ โพธิ์ศรี สถาปนิกชำนาญการ สำนักงานโยธาฯ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ สนง.โยธาฯ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ รวบรวมข้อมูล เพื่อสรุปผลส่งผู้ว่าฯ และนำไปสู่การแก้ไขในระยะยาวต่อไป
“ในส่วนของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนที่ทางกรมโยธาฯจะได้ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำงานแทนผู้รับเหมารายเดิมที่ทิ้งงาน และถูกกรมโยธาฯยกเลิกสัญญา เบื้องต้นเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่สุด ตามข้อสั่งการของผู้ว่าฯ คือการแก้ไขปัญหาบริเวณถนนพร้อมพรรณอุทิศ เพื่อขจัดปัญหาน้ำท่วมขัง แหล่งเพาะพันธุ์ลุกน้ำยุงลาย ปัญหามลภาวะเป็นพิษ และลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยขุดลอกรางระบายน้ำ ระยะทาง 700 เมตร เพื่อเปิดทางให้น้ำเสียไหลลงสู่ธรรมชาติ ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายคือ อบจ.กาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ และเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 1 วัน คือวันนี้” นายปรัชญากล่าว
ขณะที่นายเศรษฐชัย ธารชัย อายุ 46 ปี ชุมชนหัวโนนโก-เกษตร เจ้าของป้ายถนน 7 ชั่วโคตร กล่าวว่า เมื่อรู้ว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะ ผวจ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่พบปะ สอบถามปัญหาที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบด้วยตนเอง และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา ตนและชาวบ้านก็เพิ่งจะมีรอยยิ้ม และรู้สึกมีความหวังขึ้นมา หลังจากที่ผ่านมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ต้องทนทุกข์กับความเดือดร้อน เผชิญกับปัญหาโลกแตก เพราะในอดีตภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนรู้สึกดีใจและผ่อนความความเครียด ความกังวลลงเป็นอย่างมาก ที่เห็นความเอาใจใส่จริงจัง ในการบูรณาการภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา
ตามนโยบายท่านผู้ว่าฯ ที่ต้องการเห็นพี่น้อง ประชาชนทุกคนมีความสุขทุกๆด้าน และให้ จ.กาฬสินธุ์ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม สำหรับความเดือดร้อนของชาวชุมชนหัวโนนโกเกษตร ที่ตนเคยขึ้นป้าย “ถนน 7 ชั่วโคตร” นั้น ทุกวันนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ ฝนตกน้ำขัง เอ่อท่วม ฝนไม่ตก เกิดปัญหาจราจร ฝุ่นละออง อุบัติเหตุ รำคาญกับเสียงรถตกหลุมบ่อ ดังนั้น จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจุดนี้ โดยนำคอนกรีตผสมเสร็จมาเทกลบหลุ่มบ่อ และคืนผิวจราจรด้วย เพื่อความสุข และสวัสดิภาพ ความปลอดภัยทุกมิติของชาวบ้าน ตามหลักการทำงานของผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์
นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานเครือข่ายภาคประชาสังคม ป.ป.ท.เขต 4 ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะธรรมาภิบาลจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ยังคงเกาะติด ความเคลื่อนไหวของกรมโยธาฯ อีก 2 โครงการที่เหลือ ว่าจะดำเนินการพิจารณาอย่างไร และมั่นใจการพิจารณาหาผู้รับจ้างรายใหม่จะได้ หจก.ที่มีความพร้อม เข้ามาทำงาน แต่ก็ขอฝากถึงกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เร่งพิจารณา ประกาศขึ้นบัญชีกับ 2 หจก.นี้เสียทีเพราะที่ผ่านมาก็มีการประกาศให้ หจก.อื่นๆไปมากแล้ว ความเสียหายต่อเงินภาษีของประชาชนรวมถึงปัญหาความเดือดร้อนก็เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน ควรที่จะทำให้ชาวบ้านสบายใจ ที่เชื่อว่า กรมบัญชีกลาง จะไม่ประวิงเวลาหรือช่วยเหลือแน่นอน